วันพุธ, สิงหาคม 30, 2549

"ทำอย่างไร....ห่างไกลสมองเสื่อม"

สมองเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญยิ่งของเรา ว่ากันว่าการทำงานของสมองนั้นมีความสลับซับซ้อนและสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์เสียอีก และหน้าที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งก็คือการบันทึกความจำ ความจำ เริ่มต้นด้วยกระบวนการที่สมองรับรู้ข้อมูลจากสิ่งเร้าทั้งหลาย และกลั่นกรองส่วนสำคัญเพื่อเก็บบันทึกในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องและสามารถดึงเอาสิ่งที่บันทึกไว้ออกมาใช้ได้เมื่อต้องการ ซึ่งความทรงจำแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. ความจำทันที(immediate memory) หมายถึง ความจำที่เกิดทันทีที่มีการรับรู้จากสิ่งเร้า โดยยังไม่มีการทบทวนหรือใส่ใจ ทำให้ลืมได้ง่ายภายในไม่กี่วินาที
2. ความจำระยะสั้น(short-term memory) หมายถึง ความจำซึ่งเราตั้งใจจดจำไว้ชั่วคราวไม่กี่นาที และถ้าไม่มีการทบทวนความทรงจำก็จะลืมไปได้เช่นกัน
3. ความจำระยะยาว (long-term memory) หมายถึงความจำที่เราทบทวนอยู่เสมอ ทำให้เปลี่ยนจากความจำระยะสั้นมาเป็นความจำระยะยาว ซึ่งอาจอยู่ได้นานเป็นปี หรือตลอดชีวิตก็ได้

เมื่ออายุมากขึ้นสมองก็จะเริ่มแสดงอาการผิดปกติออกมาให้เห็น เช่น อาการหลงลืมเป็นครั้งคราว ซึ่งเราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ากระบวนการความจำในร่างกายมนุษย์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ผู้สูงอายุสูญเสียความสามารถในการปฏิบัติงานต่าง ๆ รวมถึงการช่วยเหลือตนเอง อย่างไรก็ตาม "ความเครียด" ถือได้ว่าเป็นศัตรูร้ายของอาการหลงลืมเช่นกัน เพราะยิ่งเครียดมากเท่าไหร่อาการหลงลืมก็จะทวีคูณขึ้นเท่านั้น ส่วนภาวะสมองเสื่อมนั้นถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งไม่ใช่ภาวะปกติของผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมักมีอาการหลงลืม นึกคำพูดไม่ออก หลงทาง และบุคลิกภาพแปรเปลี่ยนไปจากเดิมจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เหมือนเดิม ซี่งสาเหตุหลักของโรคสมองเสื่อมก็คือ โรคอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมอง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการคล้ายสมองเสื่อม
1. รับประทานยาหลาย ๆ ชนิดพร้อมกัน และยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงต่อสมอง
2. ดื่มเครื่องดื่มที่มีแแอลกอฮอล์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
3. ได้รับอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบกระเทือนศีรษะ
4. มีอาการเครียดเป็นประจำ และมีอาการซึมเศร้า
5. มีอาการของโรคต่อมไธรอยด์
6. เป็นโรคหลอดเลือดสมองหลีกเลี่ยงอาการสมองเสื่อมทำได้ดังนี้
1. งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด
2. ระวังเรื่องการใช้ยา ไม่ควรรับประทานยาสุ่มสี่สุ่มห้า ควรให้แพทย์เป็นผู้สั่งยาทุกครั้งและควรนำยาที่ท่านรับประทานเป็นประจำไปให้แพทย์ดูด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงการสั่งยาซ้ำซ้อน
3. ระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบกระเทือนศีรษะ
4. สำหรับผู้สูงอายุที่เดินลำบากควรมีคนดูแล เช่น เวลาเข้าห้องน้ำควรมีคนไปเป็นเพื่อน เพราะอาจเกิดการหกล้มในห้องน้ำได้
5. เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุควรหมั่นไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และไม่ควรลืมเจาะเลือดเพื่อตรวจหาเบาหวานและโรคไขมันในเลือดสูง
6. หมั่นไปตรวจความดันเลือดสม่ำเสมอตามที่แพทย์นัด หากพบว่าเป็นความดันโลหิตสูงก็ต้องปฏิบัติตนตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพราะมีผลกระทบต่อภาวะสมองเสื่อมได้
7. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุจะต้องระมัดระวังไม่ให้หักโหมจนเกินไป แต่เพราะแทนที่จะเกิดประโยชน์อาจทำให้เกิดโทษได้
8. หากิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูโทรทัศน์ หมั่นเข้าร่วมกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุ และกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ตามสมควร
9. เมื่อสังเกตว่าตนเองเริ่มมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ มากผิดปกติ หรือมีอาการบ่งชี้อื่น ๆ ที่น่าสงสัยก็ควรรีบไปพบประสาทแพทย์ หรือแพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุทันที เทคนิคและวิธีพัฒนาความจำ
1. พยายามตั้งสมาธิเมื่อปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ
2. พยายามนึกสร้างภาพในใจเมื่อต้องจดจำสิ่งหนึ่งสิ่งใด และถ้าภาพประทับใจก็ยิ่งทำให้จดจำได้ง่ายขึ้น
3. เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่สำคัญเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
4. ควรมีสมุดบันทึกพกติดตัวตลอดเวลา เพื่อใช้จดข้อมูลต่าง ๆ กันลืม
5. พยายามจัดหมวดหมู่สิ่งของไว้เป็นพวก ๆ เก็บเป็นที่เป็นทางเพื่อความสะดวกในการใช้งานและไม่สับสน
6. ทำทุกเรื่องด้วยสติ และรอบคอบ ถ้าไม่แน่ใจก็ตรวจทานอีกครั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาด
7. พยายามลดความตึงเครียด เช่น หางานอดิเรกทำในยามว่าง, ออกกำลังกาย, นั่งสมาธิ เป็นต้น สำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการหลงลืมเป็นประจำก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะอาการหลงลืมเป็นเรื่องปกติของผู้สูงอายุและท่านอาจไม่ได้เป็นโรคสมองเสื่อมก็ได้ ส่วนผู้ที่เริ่มมีอาการของโรคสมองเสื่อม หรือสงสัยว่ากำลังจะมีอาการก็ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วนที่สุดเพื่อหาวิธีป้องกันและรักษาอย่างทันท่วงที

"ชอบ...ไม่ชอบ"


ชอบ
ทั้งที่ฉันไม่ชอบฟังเพลงร็อก
แต่ได้ยินทีไรก็หยุดฟังทุกที คง
เพราะเป็นเพลงทีเธอชอบ และ
เพลงร็อกก็เพราะไปอีกแบบ
ทั้งที่ไม่ชอบกินข้าวผัด แต่
เห็นทีไรก็รู้สึกว่ามันอร่อยทุกที คง
เพราะเป็นข้าวผัดที่เธอชอบ....คราว
หน้าจะลองกินบ้าง
ทั้งที่ไม่ชอบดูหนังสงคราม
แต่ก็ดูมาแล้วหลายเรื่อง คงเพราะ
เป็นหนังที่เธอชอบ.....ก็สนุกดีเหมือนกัน”

….ไม่ชอบ”
....ทั้งที่ผมชอบฟังเพลงร็อก
แต่เธอเคยบอกว่าหนวกหู....ไม่เป็นไร
เอาไว้ฟังที่บ้านก็ได้
ทั้งที่ชอบกินข้าวผัด...แต่ก็
จะสั่งอาหารอยางอื่น.....เดี๋ยวเธอจะ
แย่งกินไม่ได้
ทั้งที่ชอบดูหนังสงคราม แต่
ก็จะชวเธอดูหนังรักโรแมนติก....
เดี๋ยวเธอจะหาว่าชอบความรุนแรง.....

“ความรักไม่ได้ต้องการความเหมือน หากแต่เป็นความต่างที่ปรับเข้าหากันได้

"ขอโทษนะ ไม่เป็นไร"


ขอโทษนะ ไม่เป็นไร
ขอโทษนะ .. ที่ใจร้อนเกินไป
ไม่เป็นไร...ผมเองก็ใจเย็นเกินไป
ขอโทษนะ....ที่เอาแต่ใจตัวเอง
ไม่เป็นไร.....ผมจะได้หัดเอาใจคนอื่นบ้าง
ขอโทษนะ.....ที่ไม่ค่อยเอาใจคุณ
ไม่เป็นไร......นั่นมันหน้าที่ของผม
ขอโทษนะ......ที่ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกของคุณ
ไม่เป็นไร.......ผมไม่ใช่คนขี้น้อยอยู่แล้ว
ขอโทษนะ......ที่ขี้งอนเกินไป
ไม่เป็นไร...ผมจะรู้ว่าตัวเองมีค่าให้คุณโกรธ
ขอโทษนะ....ที่ไมใช่คนอ่อนหวาน
ไม่เป็นไร......ผมหวานเองได้
ขอโทษนะ.....ที่ชอบวุ่นวายกับชีวิตคุณ
ไม่เป็นไร.....ชีวิตผมก็เหมือนคุณนั่นแหละ
ขอโทษนะ......ที่ชอบห้ามคุณทำนั่นทำนี่
ไม่เป็นไร.......ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง
ขอโทษนะ......ที่ไม่รู้จักโตซะที
ไม่เป็นไร.....ผมจะได้ดูแลคุณได้เต็มที่
ขอโทษนะ....ที่ไม่ค่อยเชื่อฟังคุณ
ไม่เป็นไร......ผมชอบคนดื้อ
ขอโทษนะ....
ไม่เป็นไร….
ขอโทษนะ…
ไม่เป้นไร.....
.........ขอบคุณ ที่ให้อภัยและยอมรับกันเสมอ
.......ขอบคุณ ที่รักผม

Temporary Internet Files

Temporary Internet Filesคุณทราบหรือไม่ว่า ทุกครั้งที่มีการใช้งาน Internet โดยเข้าไปยัง web site ต่างๆ คอมพิวเตอร์ของคุณจะมีการเก็บข้อมูลต่างๆ ทุกอย่างใน web page นั้นๆ มาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ข้อมูล รูปภาพที่เห็นบนหน้าจอ และอื่นๆ อีก รวมทั้งอาจนำมาซึ่ง virus ต่างๆ ก็เป็นไปได้ (สำหรับ virus อาจแก้ไขได้โดยการติดตั้งโปรแกรม anti-virus ที่สามารถตรวจสอบ virus ก่อนการเข้า web) ไฟล์ต่างๆ เหล่านี้จะถูกเก็บในโฟลเดอร์ที่ชื่อว่า Temporary Internet Files ซึ่งคุณสามารถเข้าไปลบไฟล์เหล่านี้ได้ โดยผ่านคำสั่งในเมนูของโปรแกรม Internet Explorer ให้คลิกที่เมนู Tools คลิกเลือก Intenet Options
จากนั้นคลิกที่ปุม Delete Files
ข้อดีของการลบไฟล์
เพิ่มพื้นที่ใน Harddisk
ลดปัญหาไฟล์ของ Virus Worm
ลดปัญหาไฟล์ของ Worm, Trojan
ส่วนข้อเสียอย่างหนึ่ง คือ ทำให้เสียเวลาในการ load ข้อมูลใหม่ทุกขึ้นที่มีการเข้า web เดิมๆ

"a ธรรม"

วุ่นจัง เมื่อตอนนั่งรถเมล์..... อยากสึก
น้องเณรเพิ่งกลับจากเชียงใหม่ครับ ก่อนหน้าที่จะไป ช่วงนั้นยังอยู่ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ได้สามสี่วัน ไม่ต้องนึกเลยว่าผู้คนจากต่างจังหวัดที่พากันกันทยอยกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ จะเยอะขนาดไหน และกว่าที่น้องเณรจะไปยืนเบียดญาติโยมบนรถได้ ก็เล่นเอาเหงื่อตกไปหลายตุ่มมังกร
เหตุการณ์คราวนี้ทำให้คิดถึงเหตุการณ์ครั้งที่ขึ้นไปกรุงเทพฯกับเพื่อน หลังจากลงที่หมอชิต ก็ต้องนั่งรถเมล์ต่ออีกทอดหนึ่ง อีตอนรอรถตรงป้ายรถเมลืขอบอกว่า คนเยอะมากๆครับ เยอะจนวาดภาพไม่ออกว่าที่ยืนๆกันอยู่นี่ จะขึ้นไปยัดบนรถความยาวไม่กี่เมตรได้ยังไง
พอรถจอดเทียบไหล่ถนนเท่านั้นแหละ ผู้คนก็พากันกรูขึ้นไปยืนยัดอัดกันเป็นปลากระป่อง น้องเณรขึ้นเป็นคนสุดท้าย เหลียวซ้ายแลขวาไม่มีที่ว่างเอาก็เอา ยืนก็ยืน พยายามทำหน้าตาให้ดูน่าสงสาร บีบน้ำตาก็แล้ว ไม่เห็นใครจะนิมนต์ให้นั่ง ทำอะไรไม่ถูกก็เลยถอนหายใจแบบปลงๆ ในชะตากรรมวันนั้น ถ้าใครสังเกตอยู่บ้างก็จะเห็นเณรน้อยรูปหนึ่งแบกบาตรและกลดยืนห้อยโหนรถเมล์ไปตลอดทาง รู้สึกแย่เอามากๆ ครับ ความอายปนหงุดหงิดผุดขึ้นมาราวกับตึกในเมืองกรุง ใจร่ำร้องอยากจะสึกท่าเดียว แต่คิดไปคิดมา ถ้าจะสึกเพราะไม่อยากโหนรถเมล์ก็ใช่ที่ ก็เลยระงับไอ้ความรู้สึกแย่ๆ เอาไว้ไปตลอดทาง
แน่ล่ะ ปัญหาระหว่างพระกับสังคมเทคโนโลยีที่ซับซ้อน มันมีมากกว่าเรื่องขึ้นรถเมล์แล้วแย่งที่ไม่ทัน เมื่อสังคมเปลี่ยนแปลง พระก็ต้องปรับตัวเพื่อที่จะทำให้ตัวเองอยู่ใต้ในสังคมนั้นๆ การปรับตัวไม่ได้หมายถึงการวิ่งตามเพื่อที่จะทำให้ตัวเองทันสมัยขึ้นหรือ มี และ เป็น อะไรเหมือนสังคมฆราวาส แต่การปรับตัวอาจทำให้วิถีชีวิตข้อวัตรปฏิบัติเปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่ง
ไม่เพียงบุคคลเท่านั้นที่ต้องปรับตัว คำสอนก็ต้องมีการตีความให้เข้ากับสังคมที่ซับซ้อนนี้ด้วย อย่างกรณีเรื่องศีลนั้น การที่ก๊อบปี้ไรเตอรืคิดคำพูดให้สวยหรู หรือพูดความจริงเพียงครึ่งเดียวมาประกอบกับสินค้านั้น ถือว่าผิดศีลข้อมุสาฯหรือไม่ อีกทั้งยังเรื่องการให้ทานในสังคมใหม่นี่ล่ะ เช่น ถวายกุฏิที่พัก จะได้อานิสงส์คือ ที่อยู่อาศัย ถวายความสะดวกสบาย ก็เข้าใจได้ว่าจะได้รถรายานพาหนะ แล้วถ้าถวายโทรศัพท์ล่ะจะได้อานิสงส์อะไรพยายามนั่งคิดกับพระอาจารย์ก็แล้ว เปิดดูหนังสืออานิสงส์ร้อยแปดก็แล้ว ไม่เห็นมีบอกไว้ สุดท้ายเห็นตรงกันว่า น่าจะได้หูทิพย์ล่ะมั้ง คิดเล่นๆ ดอกครับ
เมื่อไม่นานมานี้น้องเณรคุยกับพี่โยมพี่ อุดมคติ ถึงเรื่องพระกับท่าทีในการใช้สอยเทคโนโลยี โยมพี่เขาพูดว่า ไม่ชอบพระมีมือถือ มันยังไงไม่รู้มันดูไม่ค่อยดี และในขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของน้องเณรก็ดังขึ้นมาพอดี ตายล่ะหว่า........ยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก โทรมาอะไรตอนนี้ว้า โยมพี่เขาเกลียดขี้หน้าหน้าแน่ๆ เลย น้องเณรจะทำอะไรได้ครับ นอกจากส่งยิ้มแฮ่ๆ ให้โยมพี่เขาเท่านั้นเอง น้องเณรพูดคุยต่ออีกสองสามเรื่อง จึงเอ่ยปากลากลับด้วยความกระดากอาย
การที่โยมพี่อุดมคติไม่เห็นด้วย จนกระทั่งพานหาเรื่องหย่าขาดจากการเป็นชาวพุทธ เพียงเพราะเห็นภาพพระโทรศัพท์ เดินเลือกซื้อของในห้างหรือนั่งหน้าจอคอมฯ ก็เข้าใจได้ว่า เพราะภาพเหล่านี้อาจยังไม่ชินตาของโยมพี่เขานั่นเอง แล้วภาพที่ชินตาเกี่ยวกับพระในความทรงจำเก่าๆของโยมพี่ อุดมคติและคนทั่วไปเป็นแบบไหนล่ะ ก็ประมาณว่าเป็นพระนักปฏิบัติ แบกบาตรและกลดเดินธุดงค์ในป่าเขาลำเนาไพร เผชิญกับสัตว์ร้าย ภูตผีปีศาจพระธุดงค์รูปนี้ก็ทำให้เหล่าผีปีศาจสยบด้วยคาถาอาคม.......เอาเข้าไป ถามว่าภาพเหล่านี้มาจากไหน ตอบทันทีเลยว่า ก็มาจากนิยาย และละครหลังข่าวนั่นไง
ภาพความทรงจำเกี่ยวกับพระที่ว่ามาล้วนเป็นภาพใน อุดมคติ ที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ เลยในปัจจุบัน (นอกจากละครหลังข่าวสองทุ่มภาพเหล่านี้เกาะติดแน่นในตวามทรงจำของชาวพุทธมานานกว่าหลายปี ยากที่จะแกะออกให้เห็นความเป็นจริง น้องเณรอยากให้ทุกคนมองมาตรงนี้ครับมองมาดูบริบทางสังคมให้เห็นถึงโครงสร้างและเงื่อนไขที่เป็นอยู่ แล้วจะรู้ว่า ทำไมน้องเณรต้องมีมือถือ ทำไมน้องเณรต้องโหนรถเมล์ ทำไมน้องเณรอยากสึก............

สูตรสำเร็จคอนเสิร์ต

หนทางเดียวที่สามารถเห็นศิลปินที่ชื่นชอบแบบตัวเป็นๆ ในขณะที่ศิลปินจะได้เห็นลูกค้าผู้มีอุปการคุณกันแบบจะๆ....ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง คอนเสิร์ต สิ่งโยงใยสำคัญในการให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้พบกันอย่างเป็นธรรมแต่น่าแปลก สิ่งที่หลายๆ คอนเสิร์ตชอบทำ มันดูซ้ำๆกันเหมือนทีมงานเป็นลูกพี่ลูกน้อง หรือนี่อาจเป็นแผนแม่บท ที่บรรดาคนจัดคอนเสิร์ตต้องยึดถือปฏิบัติ ในทางกลับ....คอนเสิร์ตประเทศเราก็มักจะมีประเพณีนิยมคล้ายๆกันทุกงาน
มาเลย ยุคนี้ควรบันเทิงอย่างรู้เท่าทัน ดูสิว่าสูตรสำเร็จคอนเสิร์ตในประเทศเรามีอะไรบ้าง คิดซะว่าเป็นคู่มือป้องกันการเงองะ

บัตรคอนเสิร์ต
ก่อนตัดสินใจจับจองบัตรควรใช้วิจารณญาณค่อนข้างมาก ในกรณีเป็นศิลปินระดับซูปเปอร์สตาร์ ก่อนเดินทางไปจองบัตรควรเตรียมอุปกรณ์ยังชีพให้พร้อม คิดซะว่าไปเที่ยวภูกระดึง ไม่น่าเชื่อ บางคอนเสิร์ตเปิดให้จองบัตรวันที่ 3 จะพบเห็นแฟนๆไปตั้งค่ายพักแรมยังสถานที่ขายบัตรตั้งแต่คืนที่2นั่งนอนกันอีเหละเขละขละ ออกแนวเหมือนรอรับบริจาคสิ่งของตอนน้ำท่วม กรณีนี้ใครที่มีโคตรเหง้าในหน่วยงานที่จัดคอนเสิร์ตมักได้เปรียบ เพราะก่อนนเปิดจำหน่วยให้บุคคลทั่วไป ส่วนใหญ่มักมีการเปิดให้จองบัตรภายใน แต่บางงานกว่าจะเหลือถึงมือบุคคลทั่วไปทำมาทำไปกลายเป็นงานเลี้ยงบริษัท ซื้อดูกันเองซะอย่างงั้น

ราคาบัตรก็สำคัญ เพราะมูลค่าของบัตรเป็นดัชนีบ่งบอกถึงอะไรได้หลายอย่าง เช่น...
ต่ำกว่า 100 บาท : หากเป็นคอนเสิร์ตร็อก เตรียมพบความบันเทิงในรูปแบบเสียงเพลงบวกบรรยากาศสงครามกลางเมือง สลับการสาธิตวิธีสลายม็อบโดย สห. ในกรณีบุตรหลานและครอบครัวต้องรับผิดชอบควรทำพินัยกรรมให้เรียบร้อยก่อนเข้าชม

200-300-500 : ราคาแรกมีไว้สำหรับแฟนเพลงสายตายาวเพราะจะได้ที่นั่ง (บางครั้งก็เป็นที่ยืน) ไกลสุดกู่ เห็นหลายคนเตรียมกล้องทางไกลมาจากบ้านทำท่าเหมือนจะมาดูนกป่าห้วยกระแจะบางรายออกแนวโชว์พาวฯแบกกล้องดูดาวมาซะอย่างงั้น เดือนร้อนทีมงานต้องคอยเตือนว่าคอนเสิร์ตไมใช่ดาวหางฮัลเลย์ ราคาถัดมาได้สิทธิ์อยู่ในแดนกลาง พอได้มีโอกาสทางสังคมบ้าง เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มีบุคลิกไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เดินทางสายกลาง พ่อค้าคนกลาง ลูกคนกลาง ชายกลาง......โอ๊ย......พอแล้ว ส่วนบัตรราคาแพงที่สุดก็ใช่ว่าสบาย บางครั้งตลอดโชวาจได้เห็นแต่ตูดช่างภาพ อุตส่าห์ได้นั่งหน้า กลับต้องผจญกับตากล้องที่พร้อมจะยืนบังตลอดการแสดง หากทนรำคาญไม่ไหว แนะนำให้อาศัยช่วงชุลมุน แอบเบิ๊ดกะโหลกสัก 2-3 ครั้งหรือมากน้อยตามจำนวนความพอใจ

800-1000-1500 บาท:หาได้ยากยิ่งสำหรับคอนเสิร์ตไทยใครอยากใหเงินรั่วไหลไปต่างประเทศบ้างเชิญทางนี้......แต่แหม หากคิดในทางกลับกัน นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่จะได้เห็นนักร้องต่างประเทศตัวเป็นๆสักครั้งในชีวิตอาน่า....ราคาขนาดนี้ถือว่าไม่แพง แต่ไม่ต้องห่วงแฟนเพลงชาวไทยใช้เงินคุ้มค่าอยู่แล้ว เสียตังค์ขนาดนี้แล้วจะให้ชั้นดูแค่คอนเสิร์ตได้ยังไง ใช่แล้ว....ในกรณีคอนเสิร์ตต่างประเทศ ผู้จองบัตรจะได้รับสิทธิ์ในการไปรุมทึ้งศิลปินถึงสนามบิน จริงๆ แล้วหากยืนรอต้อนรับอย่างสงบก็จะสามารถพบเห็นตัวเป็นๆ ศิลปินคนโปรดได้ไม่ยากเผลอๆได้จับมือถือไม้อีกต่างหาก แต่น่าแปลกต้องเข้าไปทึ้งเหมือนอยากจะเข้าไปตบกระบาล คล้ายๆรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาฆ่าขืมขืน ดูไม่ออกว่าชอบหรือเกลียดกันแน่ สังเกตจากสีหน้ากลัวตายของศิลปินตอนพยายามแหวกฝูงชน...... ปลื้มมากๆครับ ที่แฟนเพลงชาวไทยให้การต้อนรับขนาดนี้ แต่ในใจพูดว่า เกือบตายแล้วกู

2000-3000-5000 : ไฮโซครับท่าน บอกได้คำเดียวว่าไฮโซ บรรยากาศในงานอาจคล้ายๆ งานชุมนุมสโมสรโรตารี่ เปิดโอกาสให้ผู้ชมทุกท่านได้ประกวดนามสกุลตนเองอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่บัตรราคาขนาดนี้ ด้านหน้างานมักมีค็อกเทลปาร์ตี้ให้จิ้มเคี้ยวก่อน (ค็อกเทลอาหารชนิดหนึ่งขนาดเท่าหยิบมือ ทุกชิ้นต้องมีไม้จิ้มฟันปักเอาไว้กินให้ตายยังไงก็ไม่อิ่ม และที่สำคัญมักดูไม่ออกว่ามีส่วนผสมของอะไร หากมาในรูปเครื่องดื่มมักมีสีประหลาดๆ ดื่มลำบากเพราะขอบแก้วมักมีดอกไม้ใบหญ้ามาเกาะห้อยรุงรังจนไม่รุ้จะเอาปากทาบไปตรงไหน และที่สำคัญชื่อต้องแปลกๆ บี52 ,มาร์กาเร็ตต้า,กามิกาเซ่,สิงคืโปร์สลิงค์,สกูรว์ไดร์ฟเวอร์ อันหลังสุดคาดว่าคงได้รับการผสมครั้งแรกในอู่ซ่อมรถ)น่าแปลก...... บัตรแพงโคตรๆ แต่ไม่ค่อยคุ้ม เพราะว่าไม่มีมนุษย์คนไหนยังชีพได้ด้วยการกินค็อกเทล มันอิ่มซะที่ไหน บัตรราคาขนาดนี้สมควรเลี้ยงโต๊ะจีน พอคอนเสิร์ตเริ่มแทนที่จะได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวมันสุดเหวี่ยงให้คุ้มค่าบัตร ทำไม่ได้อีก เดี๋ยวเสียลุค คอนเสิร์ตเกรดนี้บุคคลสำคัญของชาติมักมากันโดยมิได้นัดหมายอยู่แล้ว ครั้นจะเต้นแร้งเต้นกาเดี๋ยวจะเสื่อมเสียไปถึงอากง

ชั้นบอกแล้วไงยุคนี้มันต้องบันเทิงอย่างรู้เท่าทัน นี่แค่ขั้นตอนการจองบัตรเท่านั้น ยังมีเรื่อวที่คอคอมเสิร์ตต้องทำความเข้าใจอีกมากช่วงนี้หลายๆ คนทักว่าน้าเน็กทำไมไม่ยอมเขียนให้มันจบในตอนไปเลยจบคาๆ แบบนี้น่าอึดอัด นี่ยังทักแบบปรานี บางคนอาจด่าว่า ไอ้หนวด....แกพยายามจะเขียนมหากาพย์ ชาดา พงศาวดารหรือไง เอาให้จบแบบไม่ต้องรออ่านตอนนหน้าได้มั้ย.....ขี้เกียจรอ..... ชั้นก็เลยขอตอบไปอย่างสุภาพว่า ไปตายซะ จะได้ไม่ต้องรอ.....^-^

รู้จักกับ BIOS (Basic Input/Output System) กันไว้ก่อน

อุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ทุกชนิดที่เป็น ฮาร์ดแวร์ จะสามารถทำงานได้โดยต้องมี ซอฟท์แวร์ ประกอบด้วย สำหรับ BIOS (Basic Input/Out System) นี้จะเป็นที่เก็บ ซอฟท์แวร์ ขนาดเล็ก ๆ ไว้ในชิป ROM (เป็นแบบ EPROM : Erasable Programmable Read-Only Memory) เพื่อใช้สำหรับทำการบูทเครื่องคอมพิวเตอร์จากแผ่น floppy disks (FDD) หรือจาก hard disks (HDD) โดยที่ BIOS จะทำหน้าที่ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการ POST (Power-On Self Test) ก่อนที่จะเรียกใช้ ซอฟท์แวร์ ที่เป็น Operating System เช่น DOS หรือ Windows จาก FDD หรือ HDD เพื่อทำการเริ่มต้นเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้สามารถทำงานได้ต่อไป
นอกจากนี้ BIOS ยังเป็นตัวกำหนดค่าต่าง ๆ ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะควบคุมการทำงานของ Keyboard, ควบคุมการทำงานของ Serial Port, Parallel Port, Video Card, Sound Card, HDD Controller และอื่น ๆ ในบางครั้ง เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ๆ เมื่อมีอุปกรณ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามาหาก BIOS ไม่สามารถรู้จักและใช้งานได้ จำเป็นต้องมีการแก้ไขโปรแกรมหรือซอฟท์แวร์ที่บรรจุใน BIOS ให้รู้จักกับอุปกรณ์ใหม่ ๆ นั้นด้วยที่เรียกกันว่า Flash BIOS นั่นเอง
สำหรับปัจจุบันนี้ BIOS จะเก็บไว้ใน EPROM ซึ่งเป็นหน่วยความจำชนิดหนึ่งที่ปกติจะใช้สำหรับอ่านได้อย่างเดียว (ส่วนใหญ่จะเป็นไอซีตัวสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ อยู่บนเมนบอร์ด) โดยที่เราสามารถทำการ ลบข้อมูลและโปรแกรมข้อมูล ลงไปใหม่ได้โดยใช้ซอฟท์แวร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการ Flash BIOS นั้น ๆ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับชนิดของ BIOS EPROM และเมนบอร์ดด้วยนะครับว่าสามารถ Flash ได้หรือเปล่าโดยวิธีการง่าย ๆ คือตรวจสอบจากเวปไซต์ของผู้ผลิดเมนบอร์ดนั้น ๆ (โดยส่วนใหญ่แล้ว เมนบอร์ดสำหรับ Pentium ขึ้นไปส่วนใหญ่จะทำการ Flash ได้แล้ว)
โดยปกติแล้ว อุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีการตั้งค่า Configuration ที่แตกต่างออกไปได้ ซึ่งค่าเหล่านี้จะถูก BIOS เก็บไว้ในส่วนของ CMOS RAM ประมาณ 64 Bytes ซึ่ง CMOS นี้จะต้องมีการจ่ายไฟเลี้ยงอยู่ตลอดเวลาจาก แบตเตอรี่ เพื่อให้ค่าที่ตั้งไว้ไม่หายไปเมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งในส่วนของ CMOS นี้จะเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้พลังงานน้อยมาก ดังนั้นจึงสามารถใช้งานได้นานโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องทำการตั้งค่าต่าง ๆ ใน BIOS ให้เหมาะสมเช่น ค่าความเร็วของการอ่านข้อมูลจาก Memory การตั้ง Enabled หรือ Disabled อุปกรณ์ต่าง ๆ, ความเร็วของ PCI BUS, ชนิดของ Floppy Disk หรือ Hard Disk ที่ใช้งาน, อุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เช่น SCSI และอื่น ๆ อีกมากมายที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์
BIOS ที่มีใช้งานอยู่ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 บริษัทคือของ AMI BIOS (American Megatrends Inc) และ AWARD (ปัจจุบันรวมเข้ากับ Phoenix Technologies, Ltd. แล้ว) นอกจากนี้ก็จะมี BIOS ที่เป็นของแบนด์เนมต่าง ๆ เช่น COMPAQ หรือ IBM ซึ่งจะมีหน้าตาและวิธีการตั้งค่าแตกต่างออกไปด้วย
สรุปว่า BIOS มีความสำคัญมากในระบบคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่มี BIOS เราก็ไม่สามารถเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้

"ฝนตกวันอาทิตย์"

เดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมปีนี้อากาศร้อนและอบอ้าวมาก ผมพยายามไม่ขี่จักรยานไปไหนมาไหนหลัง 10 โมงเช้า เพราะแสงแดดที่สว่างเกินไป และร้อนเกินไป แทบทุกวันแสงแดดกำลังย่างต้นไม้ ย่างหลังคาบ้าน ย่างทุกคนให้สุกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หลังเที่ยงไม่ค่อยมีผู้คนตามท้องถนน เมืองเล็กๆ คล้ายว่าจะเป็นเมืองร้าง มันร้างเพราะแสงแดดและความร้อน คนเราอยู่บ้านเพราะรักบ้านและอยู่บ้านเพราะแดดร้อนด้วยเช่นกัน
คงมีผู้คนจำนวนมากภาวนาให้ฝนตก เพราะฝนตกแล้วแดดก็ไม่ค่อยออก และฝนจะทำให้โลกตรงที่ผม (หรือคุณ) อยู่เย็นขึ้น ไมใช่ต้นข้าวเท่านั้นที่คอยฝน แต่คุณก็คอยฝนอยู่เหมือนกัน บางวันมีแต่ลมแรงๆและฝุ่น แล้วก็มีฝนแค่นิดหน่อยซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของคน พืชและสัตว์ คนเรากับสายฝนมักเป็นเช่นนี้ ถ้าไม่รู้สึกว่าตกมากเกินไป ก็รู้สึกว่าตกน้อยเกินไป
เดือนเมษายนและต้นพฤษภาคม ผมกลายเป็นนักดูท้องฟ้า ดูว่าเมฆมากหรือน้อยแค่ไหน ถ้าเมฆมาก โอกาสที่จะมีฝนก็มากตาม หลายต่อหลายวันทีเดียวที่ท้องฟ้าว่างเมฆ ผมรู้สึกว่าในบางขณะ-เมฆและฝนสัมพันธ์กับความหวังของคนเรา อย่างน้อยเราก็หวังฝนจะนำความเย็นฉ่ำมาให้แต่ฝนและเมฆชนิดที่ชวนให้สิ้นหวังก็สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ
ฝนตกหนักระหว่างที่กำลังเดินทางไปทำงานหรือเขียนหนังสือ ฝนเวอร์ชันพายุระหว่างอยู่บนเกาะและต้องการกลับฝั่ง ฝนพร่ำๆยืดเยื้อในวันอาทิตย์ ระหว่างที่ใครสักคนเพิ่งเดินออกไปจากชีวิต และเรายังทำใจไม่ได้
อากาศร้อนทำให้จินตนาการและความฝันลดน้อยลง ทั้งสองสิ่ง (ฝันและจินตนาการ) ต้องการอุณหภูมิที่พอเหมาะในการงอกงาม อุณหภูมิ 38-40 องศาเซลเซียสนั้น ยากที่จะทำให้ความฝันแตกดอกออกผล อากาศร้อนและความอบอ้าวทำให้จินตนาการไม่มีที่พักอาศัย แสงแดดกลางฤดูร้อนไม่ชวนฝันเหมือนแดดหน้าหนาว ที่บ้านผมนั้นไม่ทันจะ 9 โมงเช้า แดดก็ส่องมาถึงประตูห้องนอนแล้ว ขณะที่บางเดือนแสงแดดอยู่แค่ประตูหลังบ้านด้วยซ้ำ ผมว่าแดดนั้นมีอิทธิพลต่อความฝันและความจริงในชีวิตคนเราไม่น้อยเลย
แต่เรามักให้อภัยแดดที่ชายทะเลก็มีร่มเงาให้หลบแดด อย่างที่บางแสนนั้นจะมีร่มคันโตๆและเก้าอี้ผ้าใบตั้งอยู่เป็นระเบียบเต็มไปหมด มองแล้วดูเหมือนชุมชนแออัดที่แดดส่องไม่ถึง เนื่องจากร่มจำนวนมากคือหลังคาขนาดใหญ่
30บาทต่อคน สำหรับร่มและเก้าอี้ผ้าใบ จะนั่งหรือนอนนานแค่ไหนก็ได้ 20 บาท ถ้าไปหลายคนและพ่อค้าเมตตา พ่อค้าว่าไม่มีใครนั่งทั้งวันหรอก พวกเขาย่ำคำพูดนี้บ่อยๆอย่างสบายใจ
ผมไปบางแสนมาแล้วทุกฤดู และน่าจะเคยอยู่ที่บางแสนครบทั้ง 7 วัน บางครั้งไปแบบค้างคืน บางครั้งอยู่แบบเช้าไป-ดึกๆ กลับเคยนั่งเขียนงานที่ชายหาดในวันอาทิตย์เพราะจำเป็นต้องส่งให้ได้ในวันจันทร์ เคยไม่หลับไม่นอนในคืนวันเสาร์ เคยอยู่แค่ 2-3 ชั่วโมงในวันอังคาร เคยไป ช่วยเขาถ่ายแฟชั่นในวันพุธหรือพฤหัสก็ไม่แน่ใจ ช่วงหนึ่งของชีวิตเป็นช่วงที่เอะอะก็บางแสน....บางแสน ครั้งแล้วครั้งเล่า คนเรานั้นจะมีการไปสัมผัสกับสถานที่ต่างๆ (บ่อยๆ) ระยะหนึ่งแล้วก็เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ....... แล้วแต่สถานการณ์ของชีวิตจะกำหนด
ทะเลเป็นพื้นที่สำหรับหลบร้อนชั้นดี ทุกฤดูร้อนจะมีผู้คนจำนวนมากอพยพมาทะเล ทั้งความจริงร้อนๆไว้ที่บ้านและมุ่งหน้าสู่ทะเลบ้าง
มา จากภาคอีสาน และภาคเหนือ อยู่ไกลแค่ไหนทะเลก็ส่งแรงดึงดูดไปถึง ผมเคยนึกเล่นๆว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีชายหาดจะเป็นอย่างไรบ้าง? ครั้งหนึ่งตอนต้นพฤษภาคม ผมเคยอยู่ที่ทะเลเสม็ด เราไปกันตั้งแต่วันศุกร์ และคิดว่าจะกลับวันอาทิตย์ แต่เกิดอาการติดลมทะเลก็เลยเลื่อนไปกลับจันทร์ ฝนตกหยุด.....ตกหยุด ตั้งแต่มาถึง และตกหนักในวันอาทิตย์
ผมกับเพื่อนๆนั่งพูดคุยและดื่มกินกันที่ร้านอาหารริมหาด รู้สึกดีที่ไม่ต้องแยกย้ายกันในวันอาทิตย์ รู้สึกดีกับลมและฝนรู้สึกดีกับวันอาทิตย์ผมพยายามเดินออกไปให้เปียกฝนบ่อยๆชวนเพื่อนคนหนึ่งออกไปดื่มเบียร์กลางฝน แปลกดีเหมือนกันที่บางครั้งเรากลัวฝนจะเปียกตัว แต่บางครั้งเราก็อยากเปียกฝน
ใครสักคนบอกว่า น่าจะมีออฟฟิศอยู่ที่ทะเลนะ ทำหนังสือกันที่ทะเลนี่แหละ อีกคนบอกว่า อย่าฝัน อย่าฝัน เคยมีคนพยายามแล้วแต่ล้มเหลว เพราะกอง บ.ก. เอาแต่ออกทะเลกันหมด แล้วพวกเราก็หัวเราะกัน อะไรนิดอะไรหน่อยก็หัวเราะ บางคำพูดไม่ขำเลยก็กลายเป็นขำที่ขำเล็กน้อยก็เปลี่ยนเป็นขำมาก ผมเรียกเหตุการณ์ทำนองนี้ว่าความสุข และมันได้กลายเป็นความทรงจำไปเรียบร้อยแล้ว
จำได้ไม่หมดหรอกครับ บางทีก็ไม่ได้นึกด้วยซ้ำ และเราไม่นึกล่วงหน้าว่าจะนึกถึงเรื่องนี้หรือเรื่องอื่นๆเมื่อไร มีหลายเรื่องในชีวิตด้วยซ้ำที่เราลืมไปเลยอย่างถาวร
เดือนเมษายนและต้นพฤษภาคมปีนี้อากาศร้อนอบอ้าวมาก ผมกลายเป็นนักดูท้องฟ้าที่อยู่ไกลจากทะเลเหลือเกิน
จบบริบูรณ์

"ระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System)"

ระบบประสาทอัตโนมัติ เรียกว่า autonomic nervous system เป็นระบบประสาทที่สำคัญในการควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในของร่างกาย ดังนั้นความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติจะทำให้เกิดโรคต่างๆขึ้นเป็นจำนวนมาก ระบบประสาทชนิดนี้ศูนย์กลางอยู่ภายในไขสันหลัง แกนสมอง และสมองส่วนฮัยโปธาลามัส โดยจะทำงานเป็นอิสระอยู่นอกเหนือการควบคุมของอำนาจจิตใจ ระบบประสาทอัตโนมัติทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในของร่างกายให้อยู่ในสภาพปกติ ระบบประสาทอัตโนมัตินี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ระบบประสาทซิมพาเตติก และระบบประสาทพาราซิมพาเตติก

ระบบประสาทซิมพาเตติก (sympathetic nervous system) จะเริ่มต้นจากไขสันหลังส่วนอกที่ 1 จนถึงไขสันหลังส่วนเอวที่ 2 โดยมีศูนย์กลางอยู่ในไขสันหลัง ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์อยู่ในบริเวณด้านข้างของเนื้อสีเทาของไขสัน หลังจากศูนย์กลางจะมีเส้นใยประสาทไปสู่ปมประสาท ซึ่งจะอยู่ห่างจากอวัยวะที่ไปสู่ แต่จะมีเส้นทางประสาทแยกออกไปควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ดังกล่าว การเร้าประสาทซิมพาเตติกจะทำให้ร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับเผชิญอันตรายหรือภาวะฉุกเฉิน

ระบบประสาทพาราซิมพาเตติก (parasympathetic nervous system) จะออกจากระบบประสาทส่วนกลาง โดยผ่านร่วมไปกับเส้นประสาทสมองบางเส้น และประสาทไขสันหลังส่วนกระเบนเหน็บ ใยประสาทพาราซิมพาเตติกมากกว่าร้อยละ 80 อยู่ในเส้นประสาทเวกัส ซึ่งไปเลี้ยงบริเวณช่องอกและช่องท้อง เป็นระบบประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการสะสมพลังงาน ควบคุมระดับการทำงานของอวัยวะภายใน หลอดเลือดส่วนต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะทำงานได้

ผลของระบบประสาทซิมพาเตติกและพาราซิมพาเตติกต่ออวัยวะต่าง ๆ ได้แก่
1.ผลต่อหัวใจ ประสาทซิมพาเตติกทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรง ในขณะที่ประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้หัวใจเต้นช้าและเบา
2.ผลต่อม่านตา ประสาทซิมพาเตติกทำให้ม่านตาขยาย ส่วนประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้ม่านตาหดเล็ก
3.ผลต่อหลอดลม ประสาทซิมพาเตติกทำให้หลอดลมขยายตัว ประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว
4.ผลต่อหลอดเลือด ประสาทซิมพาเตติกทำให้หลอดเลือดหดตัวเล็กน้อย ส่วนประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้หลอดเลือดขยายเล็กน้อย
5.ผลต่อความดันโลหิต ประสาทซิมพาเตติกทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ในขณะที่ประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลง
6.ผลต่อระบบทางเดินอาหาร ประสาทซิมพาเตติกทำให้ทางเดินอาหารเคลื่อนไหวช้าและทำงานลดลง ส่วนประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้ทางเดินอาหารเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและทำงานดีขึ้น
7.ผลต่อต่อมเหงื่อ ประสาทซิมพาเตติกทำให้เหงื่อออกมาก ประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้เหงื่อออกน้อยลง
8.ผลต่ออุณหภูมิร่างกาย ประสาทซิมพาเตติกทำให้อุณหภูมิกายเพิ่มขึ้น ประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้อุณหภูมิกายลดลง
9.ผลต่อกระเพาะปัสสาวะ ประสาทซิมพาเตติกทำให้กระเพาะปัสสาวะขยายยืดออก ส่วนประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้กระเพาะปัสสาวะหดตัว
10.ผลต่อมดลูก ประสาทซิมพาเตติกทำให้มดลูกบีบตัวลดลง ในขณะที่ประสาทพาราซิมพาเตติกทำให้มดลูกบีบตัวเพิ่มขึ้น

"ระบบประสาท"

ส่วนประกอบของสมอง มีดังนี้
1. สมองส่วนหน้า (Forebrain หรือ Prosencephalon) เป็นส่วนที่อยู่หน้าสุด แบ่งออกเป็น
- Cerebrum (ซีรีบรัม) เป็นสมองส่วนหน้าสุดในสัตว์มีกระดูกสันหลังชั้นต่ำ เช่น ปลา กบ
มีหน้าที่เกี่ยวกับการดมกลิ่น มีส่วนพองออก เรียกว่า olfactory bulb ส่วนในสัตว์ชั้นสูง สมองส่วนนี้จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆรวมทั้งเชาวน์ ปัญญา ความจำ มีส่วนเนื้อสีเทาชั้นนอก(Cerebral-cortex) ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์รับความรู้สึก (ภาพ รส กลิ่น เสียง สัมผัส ความเจ็บปวด ความร้อน เย็น ) ควบคุมให้กล้ามเนื้อทำงานและบอกตำแหน่งมีส่วน Corpus callosum ซึ่งถือกันว่ามีหน้าที่ …. ควบคุมพฤติกรรมและบุคลิกภาพของคนที่เกิดจากการเรียนรู้
- Diencephalon ( ไดเอนเซฟาลอน ) เป็นส่วนท้ายสุดของสมองส่วนหน้า อยู่ทางด้านล่าง ปกติจะมองไม่เห็น เพราะ Cerebrum คลุมอยู่ มีหน้าที่ … เป็นสถานีถ่ายทอด หรือศูนย์กลางส่งความรู้สึก ( เปรียบกับชุมสายโทรศัพท์ ) ยกเว้นการดมกลิ่น โดยที่กระแสความรู้สึกจะผ่านเข้ามาใน diencephalon แล้วจึงส่งไปยังซีรีบรัม ส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกระแสความรู้สึกนั้น ๆ
ส่วนท้ายของสมองส่วนหน้า ( Diencephalon ) แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
- ทาลามัส ( thalamus ) มีตำแหน่งอยู่ข้าง ๆ โพรงสมอง อันที่ 3 ถือว่าเป็นสถานีถ่ายทอดสัญญาณความรู้สึกที่สำคัญที่เข้าสู่สมอง และไขสันหลัง ( เนื่องจากมีบริเวณที่รับความรู้สึกมาจากบริเวณหนึ่งของซีรีบรับและส่งกลับไปที่บริเวณอื่น ๆ ของซีรีบรัมด้วยและรับข้อมูลจากซีรีบรัมส่งต่อไปที่ซี่รีเบลรัมและเมดุลลาถือว่ามีหน้าที่แตกต่างกันมากมาย ) สำหรับธาลามัสในสัตว์มีมีกระดูกสันหลังชั้นต่ำจะทำหน้าที่รับ แปรและประสานงาน สัญญาณความรู้สึกด้วยตัวเอง แต่ใสสัตว์มีกระดูกสันหลังชั้นสูง ซีรีบรัมเจริญขึ้นมากจึงทำหน้าที่แปรสัญญาณความรู้สึกและทำหน้าที่ประสานงานแทนธาลามัส - ไฮโปธาลามัส เป็นส่วนพื้นของโพรงสมองอันที่สามที่มีขนาดเล็อยู่ใด้ธาลามัสติดกับต่อมใต้สมอง ภายในกลุ่มีมีเซลล์ประสาทอยู่น้อยถือว่าเป็นศูนย์ควบุมกระบวนการและพฤติกรรมบางอย่างของร่างกาย เช่น ควบคุมอุณหภูมิ ความดันโลหิต ความรู้สึกทางเพศ อารมณ์ ความต้องการน้ำและอาหาร ความกลัว การนอนหลับ การต่อสู้ การหนีภัย พฤติกรรมการสืบพันธุ์ ควบคุม เมตาบอลิซึมของ คาร์โบไฮเดรตและไขมัน นอกจานนี้ยังเป็นแหล่งที่มีเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนประสาทหลายนิดมาควบคุมการหลั่งฮอร์โมนของต่อมใต้สมอง เป็นบริเวณที่ระบบประสาทและระบบต่อมไร้ท่อทำหน้าที่ประสานงานกัน ในการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

2 สมองส่วนกลาง อยู่ถัดจากสมองส่วนหน้ามีเส้นประสาทรับความรู้สึคกจากตามายังสมองส่วนนี้ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการมองเห็นในสัตว์ มีกระดูกสันหลังชั้นต่ำ เช่นปลา และกบตอนบนจะพองออกเป็นกระเปาะเรียกว่า optic lobe แต่ในสัตว์มีกระดูกสันหลังขั้นสูงจะมีขนาดลดลงและจะทำหน้าที่เป็นสถานีถ่ายทอดสัญญาณ หรือกระแสความรู้สึกเกี่ยวกับการมองเห็น

3 สมองส่วนหลัง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ซีรีเบลลัม ซึ่งอยู่ทางด้านบนและเมดุลลาออบลองกาตา อยู่ด้านข้างและด้านล่าง

ชนิดของเซลล์ประสาทของสัตว์มีกระดูกสันหลังแบ่งตามรูปร่างมี 3 ชนิด
1. เซลล์ประสาทขั้วเดียว
2. เซลล์ประสาทสองขั้ว

3. เซลล์ประสาทหลายขั้ว

โปรแกรมหาอายุเฉลี่ยของคน n คน

#include
#include
Int a[999],b,I;
Float age;
Char ch,end;
Main()
{
do
{
Clrscr();
i = 0;b=0;age=0;
do
{
i++
Clrsce ();
Printf(“Input your age %d :”,i);
Scanf(“%d”,&a[i];
b=b+a[i];
age=b/i;
printf(“\n\nDo YOU WANT ADO AGE [Y/N]? :”);
ch=getch();
}while(ch == ‘y’ ch == ‘y’);
Clrscr();
Printf(“\n\nAverage of age :%.2f”,age);
end=getch();
}while (end ==’y’ end==’y’);
}

"นิยามคนรัก com "

รัก...เหมือนกับ Online บ้างก็ busy บ้างก็ easy
รัก...เหมือนเขียน Java Script ที่ละเอียดอ่อน ผิดแม้นิดเดียวก็ Error
รัก...เหมือนดั่ง P-II หากไม่ปรับตัวใช้ m/b แบบ Slot-One คงเข้ากับเธอไม่ได้
รัก...เหมือนดัง Ink-jet printer เปลืองนำหมึกและเสียบ่อย ดั่งรักที่รวนเร
รัก...เหมือน "not enough memory" แม้ทำทุกอย่างเพื่อเธอ ก็ไม่เพียงพอ
รัก...เหมือน handy scanner...คงไม่สามารถสแกนหัวใจ A4 ของเธอได้
รัก...เหมือน 4.5 MOD 3 หารกันไม่ได้ เพราะเราไม่เข้าใจกัน
รัก...เหมือน Compile..Error!! เธอไม่เคยเข้าใจ ไม่ตอบสนอง
รัก...เหมือน Sub-Directories มีมากมายให้ใครๆ จนฉันหา file หัวใจเธอไม่พบ
รัก...เหมือน Power Supply ที่จ่ายไปเลี้ยงหัวใจเธออย่างเพียงพอ
รัก...เหมือนกับ พัดลมระบายความร้อน ช่วยทำให้เธอเย็นสบาย คลายร้อน
รัก...เหมือน UPS แม้จะเกิดอะไร ใจฉันยังมั่นคงที่จะจ่ายไฟ เพื่อมีเวลา Save หัวใจ
รัก...เหมือนเสียง Modem ตอน connect ติด ช่างสุขใจเหมือนได้ยินเสียงเธอ
รัก...เหมือน Microsoft Windows พร้อมจะพังทลาย(เจ๊ง)โดยไม่มีวี่แววมาก่อน
รัก...เหมือน อาการ Access Violation ไม่ยอมบอกเหตุผล แต่ก็ไม่ยอมให้แก้ตัว
รัก...เหมือน ภาษา Assembly ทำให้เธออย่างยากลำบากทั้งที่ผลที่ได้รับเพียงน้อยนิด
รัก...เหมือน Microsoft Mouse คงทน มั่นคง
รัก...เหมือน Light Pen มักจะไม่ลงรอยกันง่ายๆ (ชี้ที่นึง Cursor ไปโผล่อีกที่นึง)
รัก...เหมือน สาย Lan Coaxial ต้องรักษาไว้ให้ดีอย่าให้หลุดลอยไป(โยงออกนอกตึกทีไรฟ้าผ่าทุกที)
รัก...เหมือน printer Epson FX800 เพียงครู่เดียวก็ร้อนแรง (หัวพิมพ์ไหม้)
รัก...เหมือน VR-headgear เมื่อมีเธอเราก็อยู่ในโลกของเราด้วยกันเพียงสองคน...
รัก...เหมือน "file corrupted" อยู่ดีๆ เธอก็เปลี่ยนไป
รัก...เหมือน "A)bort R)etry I)gnore" only 3 choices จะเลิกจะฝืนหรือจะอยู่แบบซังกะตาย
รัก...เหมือน "Your program has perfromed an illegal opertaion and will be shut down"ว้าทำไม่ถูกใจเธอซักทีรัก...เหมือน "Error 404 Objected not found" ไขว่คว้าหาตัวตนไม่ได้
รัก...เหมือน "Error 403 Access Forbidden" ถ้าไม่รู้ password ของใจเธอก็อย่าหวังซะดีกว่า
รัก...เหมือน IBM labtop (for Hi-so girls) หมดตัวก่อนที่จะได้มา
รัก...เหมือน 486dx4-100 ฉันคงให้เธอได้เพียงเท่านี้ สักวันเธอคงทิ้งฉันไปหาคนที่ดีกว่า
รัก...เหมือน If....Then....Else เธอชอบสร้างเงื่อนไงในความรักจนฉันไม่รู้จะทำเช่นไร
รัก...เหมือนกำหนด Boolean=False ดังเธอปิดใจ ไม่เปิดให้ใครคนใหม่
รัก...เหมือนดั่งหนังสือ Comp แรกๆก็ชื่นชมอยากชิดใกล้สุดท้ายก็เบื่อและถูกทอดทิ้ง
รัก...เหมือนสร้าง HomePage.... เมื่อมองภายนอกดูสวยงาม แต่แฝงไปด้วยภาษา Javaที่ซับซ้อน ดั่งหัวใจเธอ... ที่ฉันไม่สามารถมองเห็นหรือเข้าใจ...ส่วนลึกของหัวใจเธอได้
รัก...เหมือน Under Costruction!! ปีแล้วปีเล่าเธอก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลง...
รัก...เหมือนกับ Harddisk ถ้าติด Virus(HIV) คงต้อง format ใหม่ลูกเดียว
รัก...เหมือนกับจอมอนิเตอร์ ทำให้คนตาบอด (สายตาสั้น..ตาเอียง...)
รัก...เหมือนกับ RAM ขาดไฟเลี้ยง ความจำก็ถูกลบ
รัก...เหมือนกับ software ถ้าจะเอาแบบถูกลิขสิทธิ์ ราคาก็แพงหน่อย (หรือไม่หน่อย)
รัก...เหมือนการกลิ้งเม้าส์ ต่อให้กลิ้งมากขนาดไหน ก็ไม่เคยออกนอกจอเลย (นิยามคนเจ้าชู้ อิ.อิ..)

คลายเครียด

1.เธอไม่ต้องใช้กบเหลาดินสอหรอกนะ .............เพราะคำพูดและหน้าตาของเธอแหลม พอที่จะแทงให้ใจฉันอ่อนยวบแล้ว
2.อยากมี พาวเวอร์พอยต์ ............จะได้พรีเซ้นความรักของฉันที่มีต่อเธอได้
3.ตายแล้ว เธอรู้ไหม เธอทำให้ขยะล้นโลกนะ...............เพราะหัวใจใช้แล้วของ ฉันที่เธอไม่ต้องการมันแล้วไม่สามารถรีไซเคิลได้
4.เธอไม่ต้องแปลกใจหรอกนะที่หาชื่อตัวเองในพจนานุกรมไม่เจอ...........เพราะมันอยู่ในใจฉัน
5.ว่ากันว่าถอดแสคว์รูดน่ะมันถอดยากนะ........ แต่ฉันว่าถอดเธอออกจากใจฉันมันยากยิ่งกว่าเสียอีก
6.เฮ้อออ เรามีแต่พาสเวิดเข้าสู่อินเตอร์เนต........... แต่ไม่มีเอคเซสเข้าสู่หัวใจเธอเลย
7.พรมแดนที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะพรมแดนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือ ก็ไม่มีพรมแดนไหนมาคั่นหัวใจเราสองให้ห่างไกลกันได้หรอก
8.ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม เอางี้ โยนหัวก้อยกัน ถ้าออกหัว เธอมาเป็นแฟนฉัน ถ้าออกก้อย ฉันจะยอมเป็นแฟนเธอ
9.อยากเอาชีวิต ฉันหรอ.......ยิงเลยสิ....ยิงมาที่กลางหัวใจเลย...แต่เธอจะเจ็บหน่อยนะ เพราะในนั้นหนะ...............มีเธออยู่
10.ขอยืมลายมือสวยๆหน่อยได้ไหม....จะเอาจดทะเบียนสมรส
11.เอามีดมาแทงเลยสิ แทงตรงหัวใจเลยนะ ฉันไม่เจ็บหรอก แต่เธอน่ะแหละที่จะเจ็บ.............เพราะเธออยู่ในใจเธอไง
12.ใช่สิ ฉันมันคนไร้หัวใจ ก็เธอเอาหัวใจฉันไปหมดแล้วนี่
13.ถ้าฉันมีปืน 2 อัน ฉันจะแบ่งให้เธอหนึ่งอัน.............เราจะได้มี GUN และ GUN ไง
15. ถ้าเธอเป็นโคลน ฉันจะเป็นค ว า ย..............จะได้จมปลักรักเธอตลอดไป...
16.เดินดีๆ นะน้อง.......ระวังจะสะดุดรักพี่ละ
17.ฉัน : นี่ๆรู้ไหม เวลาเห็นหน้าคุณทีไร มักจะเป็นโรคชักทุกทีเลยอะ เธอ : ?? โรคชักไรหรอค่ะ ฉัน : โรคชักจะใจอ่อน
18. ฉันน่ะไม่ติงต๊องหรอก แต่ ThinkinG OF YoU
19. ฉัน : เมื่อวานนะเสียเวลาตั้งนาน เธอ : ทำไมเหรอ ฉัน : หลงทางในหัวใจเธอ
20. ขอปรึกษาปัญหาหากฎหมายหน่อยได้ไหม........ข้อหาลักลอบแอบชอบผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมายมาตราไหนครับ
21. อยากเป็นแก้วน้ำ เธอจะได้รินใจใส่ไว้
22.ถึงแม้อับบลาฮัมลินคอล์นจะเลิกทาสไปแล้ว........แต่ทำไมหัวใจฉันยังตกเป็นทาสของเธออยู่เลย
23.ท่าทางเธอจะมีโชคนะ ฉันเป็นหมอดู.... ดูดวงจากหมายเลขโทรศัพท์................ไหนบอกเบอร์มาสิ..ฉันจะทายให้(ขอเบอร์แบบเสี่ยวๆ)
24.ผมจะต้องไปรับลอตเตอรี่มาขายล่ะครับ............เพราะความรักของคุณ..มันทำให้ผมตาบอดซะแล้ว
25.นี่เรารักเธอ เธอโกรธเปล่า กรณี1ไม่โกรธ งั้นเป็นแฟนกัน กรณี2 โกรธ งั้นก็รักเราคือซะสิ
26." นี่ๆ ขอคำดิ!!!! " " คำว่า,,รัก,,น่ะ " ((เอาไว้เล่นตอนกินข้าว))
27.ฉัน : เปิดบัญชีรึยัง เธอ : เปิดแล้ว
28.ฉัน : เทอมีญาติเป็นสไปเดอร์แมนรึป่าว เธอ : ไม่มี ฉัน : มิน่าไม่มีเยื่อใยให้บ้างเลย
29.จะเรอให้คุณฟัง.....เรอทัก--รักเทอ
30.เวลาคุยโทรศัพท์กัน เรา:ตัวเองถือหูโทรศัพท์ข้างไหนอยู่อ่ะ เค้า: ข้างซ้าย/ ข้างขวา เรา:เค้ารักตัวเองนะ ตัวเองเปลี่ยนข้างถือได้ป่ะ (เปลี่ยนข้างแล้ว) เรา:ตัวเองถือหูโทรศัพท์ข้างไหนอ่ะ เค้า:ข้างซ้าย/ข้างขวา เรา:เค้าเกลียดตัวเอง แล้วอ่ะ เค้า:ทำไมอ่ะ เรา:ก้อเค้ารักตัวเองข้างเดียวอ่ะ
31.เวลานั่งอยู่ เรา:ตัวเองๆเปลี่ยนที่นั่งได้ป่ะ เค้า:อ้าวแล้วหั้ยเราไปนั่งไหนอ่ะ เรา:มานั่งในใจเราไง
32.เรา:เทอๆผมเรายาวยังอ่ะ 1.เค้า:ยังไม่ยาวเลยอ่ะ เรา:ยังยาวไม่พอจะมัดใจเทอเลยเหรอ 2.เค้า:ก้อยาวแล้วนิ เรา:ยาวพอจะมัดใจเทอได้ยังอ่ะ
33.เวลาคุยโทรศัพท์กัน เค้า:อยู่ที่ไหนอ่ะ เรา:อยู่ในใจเทอ เค้า:ทำอะไรอยู่อ่ะ เรา:ทำใจไม่หั้ยรักเทอ
34.ฉัน : นี่เทอที่บ้านไม่มีเก้าอี้ให้นั่งหรอ เธอ : ทำ ไม ค่ะ ??? ฉัน : ก้อเห็นชอบมานั่งในใจเรา
35.อยากเป็นกาแฟกระป๋อง...............จะได้เป็นหนี่งในใจคุณ
36.ถ้าฉันมีรองเท้าจะแบ่งให้เธอข้างหนึ่ง.............เราจะได้อยู่คู่กันตลอดไปไง
37.ฉัน : แถวนั้นอันตรายครับระวังลื่นนะครับ เธอ : ทำไมหล่ะคะ ฉัน : ก้อหัวใจผม ละลายอยู่แถวๆนั้นอ่ะครับ
38.โอ๊ย อย่ากำแรง...............ยังไงเราก้อยอมเปงลูกไก่ให้เทออยู่แล้วน่าฉัน : เหรองั้นจะได้เอาใจไปฝาก
39.ช่วงนี้กำลังเบลอๆนะ...........เบลอว่ารักแถบ--แบบว่ารักเทอ
40. เรา : ที่บ้านมีน้ำมันไม๊อะ เค้า : มีอะทำไม เรา :จะได้เอามาทอดสะพานรักของเรา
41.เธอ : อากาศเย็นออกทำไมไม่ใส่เสื้อ ไม่หนาวเหรอไง เรา : ไม่หนาวหรอก ... เพราะอยู่ใกล้เธอแล้วอุ่นใจ ((ไว้เล่นตอนหน้าหนาว))
42. เรา : ตัวเองแถวบ้านมีถ่านขายป่ะ เธอ : มีดิ เรา : ฝากซื้อหน่อยได้ป่ะ เธอ : จาเอาไปทำอะไรอ่ะ เรา : เอามาเติมรักให้เต็ม
43.ฉัน: นี่เธอๆช่วยหันหน้ามาให้ฉันเห็นทั้ง 2 ข้างหน่อยซิ เธอ : ทำไมล่ะ ฉัน : ก้อฉันไม่อยากหลงรักเธอข้างเดียวไง
44.ฉัน : โอ้ย..อยากเป็นเส้นเลือดใหญ่จังเลยอะ เธอ : ทำไมล่ะ? ฉัน : ก็จะได้ใกล้หัวใจเธอไงละจ๊ะ
45.พบเธอทีไรก็เจอทุกทีเลย..............เจอละไม--ใจละเมอ
46.เรา:เธอๆมีเหรียญบาทป่ะ เค้า:เอาไปทำไมหรอ เรา:เอาไปโทรบอกแม่ว่าเราเจอเนื้อคู่แล้ว
47.เรา : เดี๋ยวพี่ซื้อนาฬิกาให้เอาไม๊ เค้า: จะให้หนูใส่ไปทำไมค่ะ ตั้ง2 เรือน..? เรา: ก็เราจะได้ไม่ลืมวันเวลาที่เราอยู่ด้วยกันไงล่ะจ๊ะ
48.เดินๆอยู่ เรา : อ๊ะ ผึ้ง !!! ( พลางชี้นิ้วไปข้างหัวใจเค้า) เธอ : ??? เรา : เพิ่งจะรู้ว่ารัก
49.เรา: เห็นคุณเเล้วอยากจะซื้อบริษัทการบินไทยไห้จังเลย เค้า : ทำไมอ่ะ เรา : ก้อมัน"รักคุณเท่าฟ้า"อ่ะ
50.ฉันเป็นโรคไตระยะสุดท้าย...........ไตหาหัวจาม--ตามหาหัวใจ
51.พระเยซูรักทุกคน................แต่ฉันไม่ใช่พระเยซูฉันจึงรักเธอคนเดียว
52.ใช่ฉันมันคนหลายใจ..................แต่รู้ไหมทุกใจมีแต่เธอคนเดียว
53.โอ๊ย เจ็บคออ่ะ....................ก็ความรักมันค้ำคอ
54.โอ๊ย เราเดินตกหลุมอ่ะ...........ตกหลุมรัก
55. เธอน่าขึงจังเลย..........ขึงถิด--คิดถึง
56.เค้า :นี่ๆ เด๋วคาบต่อปัยเรียนชั้นไหนหรอ?? เรา : ชั้นรักเทอหล่ะ ((ใช้ตอนอยุ่ห้องเดียวกันระหว่างเปลี่ยนคาบ
57.เรา : หน้าอย่างคุณน่าจะเป็นเด็กช่างนะ เค้า : ??? เรา : ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้
58.เรา : เธอมีเข็มกะด้ายไหม เค้า : เอาไปทำอะไรหรอ เรา : เอามาเย็บใจน่ะสิ เห็นหน้าเธอ แล้วใจจะขาด
59.เรา : ของเราหายอ่ะ ไม่รู้ว่าลืมไว้ที่เธอป่าว เค้า : ลืมไรไว้อ่ะ เดี๋ยวช่วยหา เรา : หัวจัยเราไง
60.เรา : ดูท้องฟ้าสิเล็กจัง เค้า : ทำไมหรอ เรา : เขียนคำว่า รักเธอ ยังไม่พอเลยอ่ะ
61.เรา : ทำยังไงดีเราลืม เค้า : ลืมอะไรหรอ เรา : เราลืมเธอไม่ได้
62.เรา : หิวจัง เธอ : ก็ไปหาอะไรกินสิ เรา : กะว่าจะสั่ง.... เธอ : ?? เรา : สั่งพิซซ่า หน้าความรัก สลัดผัก ความคิดถึง เฟรนชฟราย ความคำนึง คิดถึง&ห่วงใย
63.เรา : นี่รู้ป่ะ เทอเปงคน โลภมาก เค้า : เอ้า เราโลภตงไหน เราทำไรผิดเนี๊ยะ เรา : ก็เธอเล่นเอาหัวใจเราไปทั้ง 4 ห้องเลย
64. เรา : นี่ๆช่วยอะไรหน่อยได้มะ เค้า : อ่า ทำไรค่ะ เรา : ช่วยเดินไปตรงกระจกแล้วบอกคนนั้นว่าเราคิดถึง
65. เรา : เหนื่อยมั้ยที่มาเดินเล่นในใจผม เค้า : แหวะ น้ำเน่าวะ เรา : ถึงน้ำเน่าแต่ยังเห็นเงาจันทร์นะ เค้า : กำ เสี่ยวแดก เรา : เสี่ยวนักเพราะรักเธอ เค้า : กำx2 นี่เทอเบลอป่าวเนี่ย เรา : เบลอว่ารักแถบ-แบบว่ารักเธอ เค้า : กำกำกำกำกำ ((รวมมิตร))
66.เรา:รู้เปล่าเธอเที่ยวทะเลตอนไหนสวยที่สุด เค้า : ตอนไหน เรา: ก็ตอนที่มีเธออยู่ด้วยไง
67.เรา : นี่ๆหันไปทางซ้ายหน่อยสิ เค้า : ทำไมอะ เรา : น่าหันหน่อยสิ เค้า: อะแค่นี้พอยัง เรา : อืมใช้ได้ๆ เค้า : ให้หันทำไมอะ เรา : อยากให้ใจมันตรงกัน หน่อยอะ
68. เรา : นี่ๆๆ เราว่าเธอโดนแล้วนะ เค้า : โดนไร เรา : ก้อโดนเรารักแล้วไง
69.เรา : ทำไมวันนี้เรามองเธอเราเจ็บตาจัง เค้า : อ้าว ทำไมเธอมองเราแล้วเจ็บตาล่ะ เรา : ก้อเทอสวยเตะตางัย
70.เรา: เธอๆๆ เธอ: มีไรเหรอ เรา: เก็บปากกาให้หน่อยดิ เธอ: นี่จ๊ะ เรา: แล้วอย่าลืมเก็บหัวใจเราที่ตกอยู่ข้างๆปากกาด้วยนะ
71.ถ้าคุณต้องออกไปนอกโลก คุณจะเอาของสิ่งใดติดตัวคุณไป ~ 1. รองเท้า / ไปวิ่งในหัวใจเธอ 2. กล่อง / ไว้เก็บใจของเธอ 3. เชือก / ไต่ขึ้นมาจากหลุมอวกาศที่เธอขุดไว้ 4. พลาสเตอร์ / แปะแผลใจ 5. หมอน / ฝันถึงเธอ
72.เรา: เห้ย !! อย่า! เค้า : อย่าอะไร เรา:อย่าทำให้ฉัน ...รักเทอ
73.เรา: เอ่อโทดที เค้า : มีอะไรเหรอ เรา : ช่วยยกขาหน่อยได้ไหม เค้า : ทำไม เรา : ก็เทอเหยียบหัวใจเราอยู่น่ะ
74. เรา : เธอตอนนี้อากาดเปงไงม่างอ่ะ เค้า : ร้อนอ่ะ เรา : งั้นสงสัยเราให้ความอบอุ่นเทอมากเกินไป
75. เรา : เธอเป็นโรคหัวใจรั่วรึป่าว เค้า : ทำไมหรอ เรา : ก็เราใช้ความรักเติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็มสักที

"ถ้าวันนี้คุณรู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตกำลังจะมาถึง"

ถ้าวันนี้คุณรู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตกำลังจะมาถึง
วันนี้ก็คือวันเริ่มต้นของชีวิต ลองคิดทบทวนกับประโยคนี้ดีดีนะครับ
ทำไมวันเริ่มต้นของชีวิตคือวันที่เรารู้ตัวว่าใกล้จะตาย
ผมเล่าเรื่องของคนคนนึงให้ฟังดีกว่า
เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งอธิบายรูปประโยคกันให้เมื่อยตุ้ม
ที่ทำงานคุณมีการตรวจสุขภาพกันรึเปล่าครับ อือม์ตรวจร่างกายทั่วไปประจำปี
ตรวจโรคติดต่อ ใช่ที่สำคัญมีการตรวจเลือดด้วย
มีคนรู้จักคนนึงทุกวันนี้ก็ไม่รู้จะบอกว่าเค้าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่
เป็นผู้ชายที่เข้าข่ายของกลุ่มเสี่ยงก็ว่าได้ เอาทุกอย่างยกเว้นการพนัน
คนนี้แหละครับที่ผลการตรวจเลือดประจำปีออกมาว่าเค้าเลือดบวก
แต่หมอยังไม่ยืนยัน แล้วก็นัดให้ไปตรวจใหม่อีกสามเดือน
เป็นอันว่าหลังวันตรวจเลือดและรู้ผลเค้าเชื่อว่าผลตรวจเลือดเป็นจริง
เท่านั้นแหละครับ ชีวิตดับทันที งานการไม่ไปทำ
หลบตัวอยู่กับบ้านประมาณอาทิตย์นึงได้ พอเพื่อนๆเจอหน้าเค้าอีกที
คราวนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เพื่อนชวนไปไหนก็ไม่ไป เลิกงานแล้วก็ไปหาแฟน
พาแฟนไปทานข้าวกับพ่อแม่ที่บ้าน
เหล้าบุหรี่ก็ไม่แตะอีกเลยแล้วก็ไม่พูดถึงเรื่องผลการตรวจเลือดอีก
เค้ากลับมาทำทุกอย่าง เล่นกีฬาเที่ยวต่างจังหวัด
จนบางทีเราก็อดสงสัยกันไม่ได้ว่าชีวิตมันมี 48
ชั่วโมงเพราะมันใช้เวลาทุกนาทีคุ้มมาก จนกระทั่งคนทางบ้านและแฟนมันแปลกใจ
อดไม่ได้ที่จะแอบโทรมาถามเพื่อนว่าเค้าเป็นอะไรเหรอ
ทำไมทำตัวเหมือนคนซึ้งสัจธรรมเลย ตอนนั้นพวกเราก็อึ้งนะครับ
เพราะทุกคนรู้ดีว่าเพราะอะไร แต่ก็มีเพื่อนคนนึงพูดขึ้นมาว่า
นี่ถ้ามันเป็นคนดียังงี้แต่แรกมันก็ไม่ต้องตายแล้วหละ ใช่ครับ
ถ้ามันเป็นคนดียังงี้แต่แรกมันก็ไม่ต้องตาย
ทุกวันนี้มันฟื้นกลับมาเป็นคนอีกครั้ง หลังจากนั้นสามเดือนให้หลัง
ผลตรวจเลือดปรากฏว่ามันไม่มีเลือดบวก ประโยคที่มันบอกกับพวกเรา
มันบอกว่ามันดีใจที่พระเจ้าส่งมันไปดัดสันดานในนรกมาสามเดือน
ทุกวันนี้มันรักครอบครัวรักแฟน
แล้วพวกเราก็คิดว่ามันทำทุกอย่างได้ดีเท่าที่คนรักควรจะทำ
จนบางทีอดอิจฉาไม่ได้อยากให้ชีวิตเฉียดๆอะไรอย่างมันบ้าง
ชีวิตของเราเริ่มต้นเมื่อวันที่เรารู้ตัวว่ากำลังจะตาย หรือ
จงใช้ชีวิตวันนี้ให้เหมือนว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต
มันก็เหมือนกันความหมายเหมือนกันว่าคนเราไม่รู้จักคุณค่าของชีวิต
จนวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง วันนั้นแหละที่เราจะรู้ว่าเราอยากทำอะไร
แล้วทำไมเราต้องรอจนกระทั่งวันสุดท้ายมาถึงก่อน จึงคิดจะทำอะไรที่ใจอยากทำ แล้ว
ถ้าสมมุติว่าพรุ่งนี้คุณกำลังจะจากคนที่คุณรักไปหละ
วันนี้คุณจะทำอะไรให้เค้าก่อน
หรือสมมุติว่าพรุ่งนี้คนที่คุณรักกำลังจะจากคุณไป คุณจะทำอะไรให้เค้าบ้าง

" เรื่อง .. กล่องข้าวที่หายไป .."

เรื่อง .. กล่องข้าวที่หายไป .. ผมนำ "กล่องข้าว" ไปกินที่โรงเรียนครั้งแรกตอน ม.1 เหตุผลสำคัญจริงๆ ก็คือทำตามเพื่อน ในชั้นเรียนนั้นมีเพื่อนนำอาหารมากินตอนพักเที่ยงกันกว่าครึ่งห้อง ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีทั้งที่ใส่ปิ่นโต ใส่กล่อง และบางคนใส่ห่อมาก็มี เมื่อถึงเวลาพักก็เอามาแลกเปลี่ยนแบ่งปันกันกิน ถามเพื่อนว่าทำไมเอาข้าวมากิน ส่วนใหญ่บอกว่าซื้อกินเองแพง ไม่มีเงินพอ บางคนบอกว่าอาหารที่โรงอาหารไม่อร่อย กินของแม่อร่อยกว่า เลยนำอาหารที่บ้านมาเอง และบางคนเห็นเพื่อนกินข้าวกล่องกันเยอะๆ ดูแล้วสนุกดี แถมบางคนก็เป็นเพื่อนสนิท ไม่อยากจะแยกกัน ก็เลยเอามากินเป็นเพื่อนด้วย- ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มหลังนี้ ที่บ้านมีปิ่นโตอยู่แล้ว แต่ผมไม่สะดวกกับการหิ้วปิ่นโต เพราะบ้านอยู่ต่างอำเภอ ขณะที่โรงเรียนอยู่ในตัวจังหวัด ถ้าต้องหิ้วปิ่นโต และโหนรถสองแถวด้วยคงลำบาก แม่จึงซื้อกล่องข้าวอันใหม่ให้จำได้ว่าเป็นกล่องสีฟ้า ข้างในนอกจากมีพื้นที่ใส่ข้าวแล้วยังแบ่งเป็นช่องเล็กๆ ใส่อาหารได้ถึง 3 ช่อง สำหรับบางคน การห่อข้าวเป็นความสะดวกและเรียบง่าย แต่กับผม- ไม่ใช่เพราะที่บ้านปกติ จะซื้ออาหารสำเร็จมาทาน เนื่องจากแม่ผมไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สบายด้วยโรคมากมายรุมเร้า ทั้งโรคหัวใจ โรคความดัน โรคอ้วน และไขมันในเส้นเลือดสูง แต่ผมไม่อยากจะซื้อแกงถุงสำเร็จรูปเพราะธรรมเนียมของการกินข้าวกล่องที่โรงเรียน คือต้องเป็นอาหารที่ทำมาจากบ้าน มีการชื่นชมและอวดฝีมือของแม่ๆกัน ถ้าซื้อแกงไปก็เสียฟอร์ม เมื่อผมบอกแม่ว่าอยากได้อาหารที่แม่ทำเองไปอวดให้เพื่อนเห็นฝีมือบ้าง ท่านก็ยิ้มรับคำ จากนั้นทุกเช้าแม่จะต้องฝืนสังขารลุกขึ้นมาหุงข้าวเตรียมอาหารให้ ปัญหาต่อมาคือ ตอนเด็กๆ ผมไม่กินผัก และไม่กินพวกไข่ต้ม ไข่เจียว แม่จึงต้องทอดไก่ ทอดเนื้อ หรือทำแกงต่างๆ ให้ ซื่งต้องใช้เวลาและขั้นตอนต่างๆ นานพอสมควรแต่กระนั้น ทุกเช้า "กล่องข้าวสีฟ้า" ของผม ก็ถูกเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยเสมอ แต่แล้วกินข้าวกล่องอยู่ได้ไม่นานนักผลก็ล้มเลิกโครงการนี้ เพราะรู้สึกอึดอัดกับคำถามและสายตาของคนรอบข้างเพราะเริ่มเป็นวัยรุ่น จึงอายที่จะถูกมองว่าเป็นเด็กที่ห่อข้าวมากินเพราะความยากจน เมื่อกลับมาบอกยอกเลิกที่บ้าน โดยบอกเหตุผลว่าอายเพื่อนนั้น แทนที่แม่จะโล่งใจเพราะไม่ต้องเหนี่อยอีก ท่านกลับอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา และจากวันนั้นมา ผมก็ไม่สนใจอีกว่าแม่จะเก็บกล่องข้าวสีฟ้าไว้ที่ไหน ...แม่ตายตอนผมเรียน ม.6 ไม่ทันอยู่จนเห็นผมเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ทำงาน และมีครอบครัว ตามที่ท่านอยากจะเห็น เราย้ายบ้านอีกหลายครั้ง ทั้งข้าวของและคนในครอบครัวเริ่มกระจัดกระจายพลัดพรากกันไป - ไม่ใช่แต่เพียงกล่องข้าวใบนั้นหรอกที่หายไป ความทรงจำหลายอย่างก็สลายสูญ ขณะที่ชีวิตของผมก็ต้องดำเนินต่อไป ...สองสามเดือนมานี้ ผมเริ่มทดลองที่นำอาหารจากบ้านใส่กล่องไปทานทำงานตอนพักเที่ยง แล้วก็ได้พบว่า นอกจากจะได้ทานอาหารแนวสุขภาพที่เราควบคุมได้เต็มที่เพราะทำเองแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดเงินได้มาก ซึ่งภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ค่อนข้างมีความจำเป็น น่าแปลกที่การนำข้าวกล่องมากินครั้งนี้ผมไม่อายสายตาคนรอบข้างอีก หลังผ่านวันเวลาของชีวิต ผมเรียนรู้ว่า ถ้ากระทำในสิ่งที่มีเหตุผมพอ ก็ไม่ต้องเกรงว่าใครจะหมิ่นหยาม ความหวั่นไหวมักจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราเริ่มดูถูกตัวเองต่างหาก เช้าวันนี้ ผมมองดูภรรยาจัดเตรียมอาหารใส่กล่อง แค่ผัดผักบุ้งไฟแดงและปลาทูนึ่งสองตัวก็คงพออิ่มสำหรับมื้อเที่ยง ร่างเล็กๆนั้นเคลื่อนไหวไปทั่วทั้งบริเวณครัวอย่างกระฉับกระเฉง ทั้งๆที่เธอเองก็เพิ่งฟื้นไข้มาไม่นานนัก ผมพลันหวนนึกถึงแม่ วูบขึ้นมา เห็นภาพหญิงอ้วนวัยกลางคน ซ้อนทับอยู่กับภาพหญิงสาวร่างเล็กเบื้องหน้า แล้วน้ำใสในดวงตาผมก็ท้นเอ่อออกมา... มองกล่องข้าวสีขาวเบื้องหน้า ผมพลันรู้ตัวขึ้นมาทันทีว่า "กล่องข้าวสีฟ้า" ที่เคยคิดว่ามันหายไปแล้วนั้น แท้จริงมันไม่ได้หายไหนเลย เพียงแต่ผมค้นหามันพบช้าไปหน่อยเท่านั้นเอง....แล้วคุณละครับจำได้มั้ยว่ากล่องข้าวของคุณ...สี อะไร?

วันเสาร์, สิงหาคม 26, 2549

วิถีชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน

อย่านำชีวิตเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
เพราะนั่นคือ
การสร้างปมด้อยให้ตัวเอง
ชีวิตใครก็เป็นของคนคนนั้น
ชีวิตคุณก็มีค่าในตัวคุณ
ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร



ชีวิต....
ถ้าเลือกได้
ทุกคนย่อมอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด
ชีวิต....
เลือกเกิดไม่ได้
แต่สามารถเลือกทางเดินในชีวิตได้
เลือกที่จะดี ที่จะเลวได้
เพราะคุณคือ .... เจ้าของชีวิต


ถ้าคุณคิดว่า
คุณมีความทุกข์
ไม่มีใครอีกแล้วที่ทุกข์ยากลำบากเหมือนคุณ
นั่นเป็นความเข้าใจผิดที่สุด
เพราะยังมีคนอีกแสนล้านบนโลก
ที่ทุกข์เหมือนคุณ หรือมากกว่าคุณอีก
คนเราต่างก็มีความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น
ทุกข์คนละอย่าง ทุกข์คนละเรื่อง
เพราะโลกมนุษย์...
ไม่มีใครที่สมบูรณ์ไปหมดทุกคน

เรามีเพื่อนอยู่ 3 คน




คนแรก คือคนที่รักเรา เพื่อนคนนี้สอนเราให้รู้จักความรัก การเสียสละ และการให้

คนที่สอง คือคนที่เกลียดเรา เพื่อนคนนี้สอนให้เรารู้จักระมัดระวังป้องกันตัวเอง

คนที่สาม คือคนที่เฉยๆกับเรา เพื่อนคนนี้สอนให้เรารู้จักช่วยเหลือตัวเอง

ชีวิตสะเพร่า

ชีวิตสะเพร่า

วิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันมักดำเนินไปโดยขาดความรู้สึกตัวจึงมักกลายเป็นเรื่อง ... ฉาบฉวย สะเพร่า ตื้นเขินและไร้แก่นสาร

จริงหรือไม่ที่ เรามักจะอ่านบอร์ด นิทรรศการ หรือหนังสือ สักเล่มให้ผ่านข้อความทั้งหลายไปอย่างรีบร้อนราวกับจะเร่งให้มันจบเร็วๆ โดยไม่มีเวลาจะชื่นชม และซึมซาบกับสารัตถะของมันได้อย่างเพียงพอจริงหรือเปล่า
ที่เมื่อเราเข้าไปทำหน้าที่นักศึกษาในห้องเรียน ความยินดีของเราไม่ได้อยู่ที่การเปิดสมุดขึ้นเมื่อต้นชั่วโมงสอน หากแต่อยู่ที่ การได้ปิดสมุดลง เมื่อหมดชั่วโมงเรียน

ความรู้อันหลากหลาย ที่อาจารย์ยัดเยียดให้ไม่ใช่สิ่งที่เราชื่นชม หากแต่คือ ภาระของเรา เมื่อเวลาปลายเทอมกรายมาถึง

เราไม่ต้องการเรียนรู้อะไรเยอะๆ
แต่เราอยากได้คะแนนเยอะๆ
เราไม่ได้ต้องการความรู้
เราต้องการแต่เพียง
....สอบผ่าน....จนได้ปริญญา

เราไม่ต้องการสาระ เราต้องการเพียง
เครื่องหมายรับประกันคุณภาพ ว่าเรามีสาระ.....เท่านั้น

เราเป็นคนหนึ่งกับเขาด้วยหรือเปล่า
ที่ไม่มีเวลาให้กับการสัมผัสคุณค่าอันยิงใหญ่ของชีวิต
เพราะต้องใช้เวลาของชีวิตให้กับการดิ้นรน
แสวงหาคุณค่ามายาทางสังคม
ชื่อเสียง เกียรติภูมิ เงินทอง หน้าตา ค่านิยม
และแล้ว เราก็พบกับความฉุกละหุก เร่งรีบ เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า

ในการวิ่งไล่ไขว้คว้าคุณค่าเหล่านั้น
หวาดกลัวว่าจะไม่ได้การยอมรับจากสังคม
จากคนรอบข้างและจากตัวเอง
ยะโส โอหัง เมื่อได้ครอบครองคุณค่านั้นสมประสงค์
แล้ววางอำนาจข่มขู่ ผู้ที่ไม่อาจมีเหมือนเรา ถ้าเราไม่ระวังตัว
เราจะค่อยๆกลายเป็นคนพิการมืดบอด
ต่อคุณค่าอันแท้จริงของชีวิต...มากขึ้นทุกที

การติดตั้งApache Web Server


Apache Web server เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นของฟรีจึงทำให้มีคนนิยมใช้เยอะ แต่เป็นเพราะความมีเสถียรภาพ จัดการได้ง่าย และมีความปลอดภัยในระดับที่ดีมากทีเดียว เรามาติดตั้งกันเลยนะครับ

1.ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา พอหน้าต่างเริ่มต้นการติดตั้งโปรแกรมจะปรากฏบนหน้าจอให้คลิกปุ่ม Next

2.หน้าต่างถัดไปจะแสดงรายละเอียดข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆในการใช้งานโปรแกรมนี้ เราต้องกาเครื่องหมาย ถูก ในช่อง 1 accept the terms in the license agreement เพื่อเป็นการตอบว่าเรายอมรับเงื่อนไขจากนั้นคลิกปุ่ม Next

3.หน้าต่างถัดไปจะแสดงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับโปรแกรมนี้ให้คลิกปุ่ม Next

4.หน้าต่าง กรอกรายละเอียดและเลือกออปชัน จะแสดงออกมา เพื่อให้เราระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ดังนี้

ช่อง Network Doamain ถ้าท่านต้องการให้เครื่องนี้เป้นเว็บเซิร์ฟเวอร์ในอินเทอร์เน็ตจริงๆ จะต้องกรอกชื่อโดเมนที่ท่านไปจดทะเบียนไว้เช่น เช่น arc.com (กรอกหมายเลข IP address ไม่ได้นะครับ) หรือถ้าท่านติดตั้งในระบบอินทราเน็ต ให้กรอกชื่อโดเมนในระบบอินทราเน็ตของบริษัทของท่านเอง แต่ถ้าท่านเอาไว้ทดลองเล่นเพื่อฝึกฝีมือในการสร้างเว็บล่ะก็ กรอกอะไรก็ได้ครับ ไม่ซีเรียสอยู่แล้ว (ก็เอาไว้ดูคนเดียวนี่นา)

ช่อง Server Name ระบุชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน ตามด้วยเครื่องหมายจุด (.) แล้วต่อท้ายด้วยชื่อโดเมนที่กรออกในช่อง Network Domain เช่น www.arc.com (หรือจะกรอกหมายเลข IP address แทนก็ได้นะครับ ) คำว่า www เป็นชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านถ้าจำชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ท่านไม่ได้ กรณีที่เป้นระบบ windows xp ก็ไปที่หน้าจอ Desktop คลิกขวาที่ไอคอน My computer เพื่อเปิดเมนูลัด แล้วเลือกคำมาสั่ง Properties ในเมนูจากนั้นหน้าต่าง System Properties จะเปิดออกมาให้เลือกแท็บ Computer Name จะเห็นชื่อเครื่องในช่อง Full Computer name

ช่อง Administrator's Email Address ให้กรอกอีเมลแอดเดรสของผู้ดูแลเว็บเซิร์ฟเวอร์เครื่องนี้
เลือกออปชั่นว่า เมื่อติดตั้ง Apache แล้ว จะให้มันทำงานอย่างไรระหว่าง...

ออปชัน Run as a service forAll Users---Recommended ถ้าเลือกออปชันข้อนี้ เว็บเซิร์ฟเวอร์ของคุณจะทำงานทันทีหลังจากเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ทุกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องสั่งให้มันทำงานเอง ในที่นี้เราเลือกออปชั่นนี้นะครับ

ออปชัน Run When startted manually, only for me ถ้าเลือกออปชันนี้ เราต้องสั่งให้มันทำงานทุกครั้งถ้าต้องการใช้งาน โดยคลิกที่ปุ่ม Startของ Windows แล้วเลือกเมนู All Programs -> Apache HTTP Server->Control Apache HTTP Server->Control Apache Server->Start
เมื่อกรอกรายละเอยดและเลือกออปชันในหน้าต่าง เสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม Next

5.หน้าต่าง เลือกประเภทการติดตั้งว็บเซิร์ฟเวอร์ จะปรากฏออกมา ให้เลือกประเภทการติดตั้ง Apache ว่า จะติดตั้งแบบ Complete หรือแบบ Custom ผมขอแนะนำให้เลือกแบบ complete เพื่อติดตั้งทุกๆ ฟีเจอร์ที่ Apache มีเพราะกินเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์แค่ 15 MB เท่านั้นเอง จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Next ตามเคย

6.หน้าต่างถัดไป ระบุไดเรกเทอรี ที่จะใช้ติดตั้ง Apache โดยปกติจะติดตั้งที่ C:\Program Files\Apache Group\ (ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนเป็นไดเรกทอรีอื่น ให้คลิกที่ปุ่ม Change จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Next

7.จากนั้น ให้เรื่มต้นกระบวนการติดตั้งโดยการคลิกที่ปุ่ม Install

8.เมื่อโปรแกรม Apache ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Finish

Wi-Fi ใช้เครือข่ายไร้สายอย่างไรไม่ให้ถูกแฮ็ก!

Wi-Fi ใช้เครือข่ายไร้สายอย่างไรไม่ให้ถูกแฮ็ก!
1.ติดตั้งไฟร์วอลล์
สำหรับคนที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ xp (ล่าสุดมี Service Pack 2ออกมาแล้ว) จะมีไฟร์วอลล์เป็นตัวกั้นไม่ให้ผู้บุกรุกเล็กรอดผ่านเข้ามาทางเครือข่ายขณะที่คุณกำลังออนไลน์อยู่วิธีการเปิดใช้งานไฟร์วอลล์ ก็คือ
1.1ให้เปิดไปที่หน้าต่าง Control Panel/Network and Internet Connections/Network Connections
1.2คลิ๊กขวาที่ไอคอน Local Area Connectionแล้วเลือก Poperties
1.3คลิ๊กที่แท็บ Advanced
1.4เช็กเครื่องหมายถูกที่ตัวเลือก Protect my computer and network by limiting or preventing access to this computer from the Internet

2.อัพเกรดระบบรักษาความปลอดภัยจาก WEP ให้เป็น WPA
ปัจจุบันนี้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ WEP (Wired Equivalent Privacy) เริ่มล้าสมัยไปเสียแล้ว เพราะมีข้อจำกัดใน ด้านระบบการตรวจสอบและการเข้ารหัสใหม่ๆ จึงได้มีระบบใหม่ออมานั่นก็คือ WPA (Wi-Fi Protected Access) ที่มีระบบการเข้ารหัสหลากหลายรูปแบบ อันจะทำให้แฮกเกอรเจาะเข้ามาในระบบของเราได้ยากขึ้น

3.ใช้ VPN
ระบบ virtual Private Network (VPN) เป็นการสร้างการเชื่อมต่อ เครื่อข่ายในลักษณะที่มีการเข้ารหัสในการรับ-ส่งข้อมูลด้วย ระบบจะทำงานผ่านตั้งแต่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นแม่ข่า ไปจนถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายตลอดเส้นทาง วิธีการเปิดใช้งาน VPN ทำได้ดังนี้
3.1เปิดหน้าต่าง Control Panel/ Network and Internet Connections/Create a connection to the network at your workplace
3.2คลิ๊กเลือกไปยังเลือกที่เป็น Virtual Private Network connection
3.3ทำตามขั้นตอนที่เหลือเพื่อสร้างเครือข่าย VPN

4.จำชื่อ SSID ให้แม่น
ปกติแล้วการใช้เครือข่ายไร้สายในสาะรณะ อาจจะมีแอ็กเกอร์บางคนแอบเข้ามาในเครือข่ายโดยลองสุ่มใช้ชื่อของเครือข่ายที่น่าจะเป็นไปได้ อย่างเช่น ถ้าชื่อของเครือข่ายเป็น company Network พวกแฮ็กเกอร์ก็อาจจะใช้ชื่อหลอกเป็น Company Net เพื่อหลอกให้คน ที่ไม่รู้ช่อเครือข่าย หรือ Service Set identifier (SSID) อย่างถูกต้อง หลงเข้ามาใช้เครือข่ายไร้สายผิดระบบ แล้วก็จะขโมยเอาพาสเวิร์ดของเครื่องโน๊ตบุ๊กไปทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้ก็คือ คุรจำเป้นต้องจำชื่อระบบเครือข่าย SSID ให้ถูกต้อง เพราะตรงนี้ถือได้ว่าเป็นปราการด่านแรกที่เรียกว่าคุณเดินเข้าไปตกหลุมเอง โดยที่แฮ็กเกอร์ไม่ทันได้หาทางเจาะเข้ามาในระบบเครือข่ายของคุณด้วยซ้ำ

5อนุญาตให้เฉพาะคนรู้จักใช้งานเท่านั้น
เช่นเดียวกันกับการรู้ชื่อเครือข่ายที่ถูกตั้งมาในระบบ SSID เพื่อเป็นการป้องกันผู้บุกรุกเข้ามาใน เครือข่ายผ่านทาง Access Point คุณจำเป็นต้องตั้งค่าใน Access Point ให้ยอมรับการเชื่อมต่อเฉพาะ Media Access Control address (MAC address) ที่กำหนดเท่านั้นเพราะถ้าหากว่าเราไม่เปิดรับ MAC address ที่ไม่รู้จัก แฮ็กเกอร์ก็ไม่สามารถเข้ามาในเครื่องของคุณได้เช่นเดียวกัน

6.เปลี่ยนพาสเวิร์ดทันทีในยามฉุกเฉิน
ในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาของคุณเกิดถูกมือดีขโมยไป สิ่งแรกที่คุณต้องรีบทำก็คือแจ้งให้ผู้ดูแลเครืยข่ายไร้สายของคุณได้ทราบและทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดของคุณทันที ทางที่ดีในการตั้งพาสเวิร์ดก็ไม่ควรใช้ชื่อง่ายๆควรจะใช้อักษรและตัวเลขที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 8 ตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความหมายก็ได้

7.ระวังสายตาที่กำลังแอบมองคุณอยู่
บ่อยครั้งที่มีคนนำโน๊ตบุ๊กไปใช้ในที่สาธารณะ แล้วในขณะที่คุณกำลังจะเริ่มต้นใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไร้สาย อาจมีบางคนแอบมองเวลาที่คุณพิมพ์พาสเวิร์ดและชื่อล็อกอิน ทางแก้ของเรื่องนี้ก็คือ ก่อนที่จะใช้งานอินเตอร์เน็ตนอกบ้านทุกครั้งให้เหลือบมองคนข้างๆคุณด้วยว่า มีใครกำลังจับตามองคุณอยู่หรือเปล่า รวมทั้งการตั้งชื่อพาสเวิร์ดยาวๆ ก็เป็นทางออกอีกทางหนึ่ง ที่ทำให้คนจำพาสเวิร์ดของคุณได้ไม่ทัน ถึงแม้ว่าจะตั้งใจแอบมองก็ตาม

8.หลอกล่อแฮ็กเกอรืให้ติดกับดัก
กับดักที่ว่านี้ก็คือ การวางระบบ Address Resolution Protocol (ARP) โดยระบบสามารถเปลี่ยนเส้นทางของผู้บุกรุกที่พยายามเข้ามาในเครือข่ายไร้สายให้ไปสู่จุดที่เป็นกับดักแบบอัตโนมัติทันที และที่จุดนี้จะทำให้ผู้ดูแลเครือข่ายสามารถตรวจสอบได้ และทำการล็อคไอพีแอดเดรสของผ้บุกรุกทันที

9.ยกเลิกการแชร์ไฟล์
จุดที่เป็นเครือข่ายไร้สายสาธารณะนั้นจะเป็นจุดที่ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้เครือข่ายกันได้อย่างง่ายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานประเภทรับ-ส่งอีเมล์ และการเชิร์ฟไปตามเว็บไซต์ต่างๆ และเพื่อป้องกันการถูกลักลอบเข้ามาทางเครืดข่ายไร้สายคุณจำเป็นต้องปิดการแชร์ไฟล์เสียก่อน ก่อนที่ไฟล์ข้อมูลในเครื่องของคุณจะถูกขโมยหรือว่ามีไวรัสคอมพิวเตอร์แทรกซึมเข้ามา วิธีการง่ายๆ ในการผิดระบบแชร์ไฟล์นี้ทำได้ดังนี้
9.1ดับเบิลคลิ๊กไอคอน My Computer
9.2คลิ๊กขวาที่ไดร์ฟ C (ไดร์ฟที่คุณติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เอ็กซ์พี)
9.3เลือกแท็บ Properties
9.4คลิ๊กที่แท็บ Sharing
9.5ยกเลิกตัวเลือก Share this folder on the network และ Allow network users to change my files

10.หมั่นอัพเดตวินโดวส์บ่อยๆ
วิธีป้องกันเครื่องของคุณอย่างง่ายที่สุด และควรหมั่นทำมากที่สุดก็คือ การอัพเดตระบบรักษาความปลอดภัยให้กับโปรแกรมวินโดวส์ที่เว็บไซต์
www.microsoft.com/security โดยโปรแกรมอัพเดตดังกล่าวนี้จะมีตัวช่วยหรือว่าวิชาร์ดคอยช่วยเหลือคุณในการอัตเดตวินโดวส์นกระทังแล้วเสร็จสมบูรณ์อย่างไม่ยาก

11.ใช้ตัวช่วยสร้างระบป้องกันเครือข่ายของคุณให้ปลอดภัยจากผู้รุกรานแล้ว คุณยังสามารถใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือ
ซอฟแวร์อื่นๆเข้ามาใช้ประกอบเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายของคุณได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น

ซอฟต์แวร์ WiMetrics เป็นซอฟตืแวที่คุณสามารถเซ็ตระบบรักษาความปลอดภัยได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงในด้านอีเมล์และเพจเจอร์ โปรแกรมนี้มีอินเทอร์เฟชที่เรียบง่าย น่าใช้งาน เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.oimetrics.com

ซอฟต์แวร์ Funk Odyssey Server ซอฟต์แวร์ที่เน้นการใช้งานภายในระบบเครือข่ายบนมาตรฐาน 802.1X ที่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบผู้ที่เข้ามาใช้งานผ่านเซิร์ฟเวอร์อย่างรัดกุม ใครสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดของซอฟต์แวร์ตัวนี้ได้ที่
www.funk.com

ฮาร์ดแวร์ Vocero Communications Badge เป็นการใช้เสียงสำหรับสั่งงานเพื่อตรวจสอบผู้ใช้เครือข่ายแต่ละคน อุปกรณ์ชิ้นนี้จะใช้ระบบเสียงแบบ VoIP (Voice-over-IP) และมีหน้าจอLCD สำหรับบอกข้อความของผู้โทร ซึ่งระบบนี้ก็เป็นอีกทิศทางหนึ่งของระบบรักษาความปลอดภัยที่มีโอกาสจะได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกในอนาคต เข้าไปดูรายระเอียดได้ที่
www.vocera.com

มาถึงค่ายแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์กันบ้าง ตอนนี้ค่ายแอปเปิ้ลได้วางจำหน่ายอุปกรณ์ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุแบบไร้สาย ที่ใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณเสียบปลั๊กเท่านั้นเองอุปกรณ์ชิ้นนี้เรียกว่า Airport Express เป็นระบบWi-Fi ชนิด 802.11g สามารถส่งสัญญาณได้ภายในรัศมี 150 ฟุตใครที่ใช้เครื่องพีชีแอปเปิ้ลกันอยู่ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.apple.om/airportexpress

ถ้าสี่ปีที่นี้ไม่มีอะไร

ถ้าสี่ปีที่นี้ไม่มีอะไร
ยังลอยมาลอยไป ในโลกกว้าง
เราคือใครก็ไม่รู้ไม่แคลงตลาง
ไม่รู้จักแม้จักวางตัวอย่างไร
ถ้าเช่นนั้น
ชีวิตเธอเป็นโมฆะ ปริญญาคือขยะ คือหยากไย่
คือทางผ่านให้ก้าวมา แล้วก้าวไป
มหาวิทยาลัยคือตึกโตอยู่เต็มเมือง

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 24, 2549

*-*

Information is the oxygen of the modern. It seeps through the walls
topped by barbed wire, it wafts across the electrified borders.
Ronald Reagan,Guardian(14 June 1989)
Future users of large data banks must be protected from having to know
how the data is organized in the machine(the internal representation).
Edgar F.Codd,A Relational Model of Data for Large Shared
Data Banks. Communication of the ACM,Vol.13,p377,1970
The important thing is not to stop questioning.
Albert Einstein
I was brought up to believe that the only thing worth doing was to add
to the sum of accurate information in the world.
Margaret Mead,New Yark Times(9 Aug. 1964)
Design in art, is a recognition of the relation between various things,
various elements in the creative flux. You can't invent a design. You
recognise it,in the fourth dimension. This is, with your blood and your
bones,as well as with your eyes.
D.H. Lawrence,Phoenix:The Posthumous Papers of D.H. Lawrence,1936
The whole of science is nothing more than a refinement of everyday
thinking.
Albert Einstein,Out of My Later Years,1950

แดจังกึม กับ การใช้คนให้เหมาะกับงาน (Put the right man in the right jop)

วันเสาร์ได้ดู แดจังกึม ครับแล้วคิดถึงคำ 2 คำ คือ การใช้คนให้เหมาะกับงาน (Put the right man in the right jop) และ การจัดการความรู้ (KM) สืบจากเรื่องที่พระราชาจะแต่งตั้งหมอหญิงจังกึม เป็นขุนนางและเป็นแพทย์ประจำพระองค์ ซึ่งผิดประเพณีที่เคยมีมา เสมือนการทำผิดระเบียบแต่ได้คนที่เก่ง เมื่อได้คนเก่งก็สามารถขับเคลื่อนหน่วยงานได้ดี แต่มีแค่ขุนนางที่เห็นด้วยคนเดียวคือมินจุงโฮ โดยเหตุผลที่ว่าเป็นการใช้คนให้เหมาะกับงานในที่สุดทั้งสำนักหมอหลวงก็เห็น เปรียบเหมือนการมอบงานที่ไม่เคยมีการมอบมาก่อนเนื่องจากไม่ตรงตามตำแหน่ง แต่เมื่อทำได้ดีก็จะได้รับการยอมรับในที่สุด

อีกคำหนึ่ง คือการจัดการความรู้ในการแก้ปัญหาของหมอหญิงทุกครั้งจะมีออกนอกกรอบหรือเป็นการจัดการความรู้ใหม่ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นการประชุมหรือถามจากผู้รู้ในสิ่งที่ไม่มีในตำราแต่เมื่อนำมาประมวลใหม่กลับใช้แก้ปัญหาได้จนเป็นที่ยอมรับแม้กระทั้งผู้ที่เป็นอาจารย์หรือพระราชา

^ - ^

การมองด้านนอกก็จตกเป็นทาสของอารมณ์
แต่การมองด้านในจะกลายเป็นนายเหนืออารมณ์ต่างๆ
* พุทธทาสภิกขุ *
มนุต้องหาความถนัดของตนให้พบ แล้วพัฒนามาใช้สอยมันในทันที
* พาโนล ปิกัสโช *
All this happened. and if some of it was hard for me to believe.
I had my logbooks and my pound of scraps and papers to prove it
to myself-memory in link. it was only needed that someone should say.
"You ought to write about it. you know. You really ought!"
* Bary! Markham "West with the Night" *
The software si not really limited in what ther can do for you.
it's your imagination and your passion that really drives where. that should go.
And so software is a key element here.
* Bill Gates *

วันอังคาร, สิงหาคม 22, 2549

ฉันดีใจที่มีเธอ


ในโลกที่มี ความวกวน
ในโลกที่ทุกคนต้องดิ้นรน
ที่สับสน ร้อนรนจนใจ นั้นแสนเหนื่อย
ในโลกที่ความทุกข์ท้อใจ
ได้เดินผ่านเข้ามาเรื่อยๆ
จนบางครั้งไม่รู้จะข้ามไปเช่นไร
แต่ยิ่งชีวิต ยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบ ยิ่งเจอ
กลับทำให้ฉันยิ่งคิด ในใจ
ฉันดีใจทีมีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบ อะไร
และฉันรู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
ในอุปสรรค ที่มากมาย
ในความหวาดหวั่น ที่วุ่นวาย
และอนาคต ในปัจจุบัน และอดีต
ในความเป็นจริงที่ต้องเจอ
แต่ยิ่งชีวิต ยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบ ยิ่งเจอ
กลับทำให้ฉันยิ่งคิด ในใจ
ฉันดีใจที่มีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบ อะไร
แต่ฉันรู้ และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
แต่ยิ่งชีวิต ยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบ ยิ่งเจอ
กลับทำให้ฉันยิ่งคิด แน่ใจ
ฉันดีใจทีมีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะไม่เหลือใครๆ
แต่ฉันก็รู้ และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
ฉันก็รู้ และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่กับฉัน

วันจันทร์, สิงหาคม 21, 2549

เขียนถึงคนบนฟ้า


เพิ่งรู้ว่าเหนื่อยแค่ไหน ที่ต้องใช้ชีวิตลำพัง
ฟ้าทุกเช้ามันอ้างว้าง ตั้งแต่เธอจากไป
ชีวิตต้องเดินก็รู้ แต่ไม่รู้จะเดินเพื่อใคร
ดาวบนฟ้าคว้ามาได้ ใครจะร่วมชื่นชม
ยามค่ำคืนยังยืนมองขอบฟ้า
เธอสบตากับฉันบ้างหรือเปล่า
คิดถึงเธอ คนที่ดีที่สุด
ถึงแม้ได้พูดในวันที่มันสาย
ยังคงรักเธอ เธอได้ยินฉันมั้ย
อยู่แห่งไหน หัวใจมีแต่เธอ
เพิ่งรู้ว่ากอดมันหวาน เมื่อเธอนั้นไปไกลลับตา
ใช้ทั้งสองมือไขว่คว้า คงไม่มีค่าใด
ห้องน้อยของเธอกับฉัน ที่วันนั้นมันดูแคบไป
เพิ่งจะรู้มันกว้างใหญ่ เกินจะนอนคนเดียว
ยามค่ำคืนยังยืนมองขอบฟ้า
เธอสบตากับฉันบ้างหรือเปล่า
คิดถึงเธอ คนที่ดีที่สุด
ถึงแม้ได้พูดในวันที่มันสาย
ยังคงรักเธอ เธอได้ยินฉันมั้ย
อยู่แห่งไหน หัวใจมีแต่เธอคิดถึงเธอ
คนที่ดีที่สุดถึงแม้ได้พูดในวันที่มันสาย
ยังคงรักเธอ เธอได้ยินฉันมั้ยอยู่แห่งไหน
หัวใจมีแต่เธอได้ยินมั้ย คิดถึงเธอ

ชีวิตต้องเดินก็รู้


"ชีวิตต้องเดินก็รู้ แต่ไม่รู้จะเดินเพื่อใคร ดาวบนฟ้าคว้ามาได้ ใครจะร่วมชื่นชม…"
"ชีวีตเต็มไปด้วยความบังเอิญ แม้เส้นทางคู่ขนานก็อาจมาพบกันได้"

"ความรัก"



เรานั่งอยู่ริมน้ำ
เธอนั่งฝั่งซ้าย ฉันนั่งฝั่งขวา
ความรักนั่งอยู่ตรงกลาง
ฉันพูดไม่ได้
ฉันใช้ความเงียบ
บอก"รักเธอ"
ความรักเกิด
วันที่
เกิดความรัก
ฉันมีชีวิตอยู่
เพราะ
ฉันรักชีวิตของอีกคน
ความรักของฉัน
หนักหนากว่า
ที่จะให้ใครรักตอบ
ผู้ชำนาญความรัก
ก็ย่อมจะมี
บาดแผลฉกรรจ์
ยิ่งรัก
ยิ่งห่างไกล
ความเป็นตัวเอง
รัก
คือเกลียดให้น้อย
เมื่อฉันรัก
ฉันเจ็บ
ฉันยังคงรัก
ฉันจะกลับบ้าน
ก่อนที่ลมรัก
จะเปลี่ยนทิศทาง

วันศุกร์, สิงหาคม 18, 2549

สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม

สิ่งที่เราค้นพบมาตั้งนานแล้ว: เราขับมาแยกไหน แยกนั้นต้องติดไฟแดงเสมอฝั่งตรงข้ามเขียวตลอดแต่กลับกันวันหลังถ้าเราไปแยกที่เคยเขียวตลอด เมื่อเราไปถึงมันก็จะกลายเป็นแดง สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม
มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี
แฟนของคนอื่นมักจะสวยกว่าแฟนของตัวเอง
เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด เราจะช้าไป 1 จังหวะเสมอ
ถ้าแอบรักใครอย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า
เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักทีให้พูดว่าไม่เอาจะได้เร็ว
ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่าจะกลับทั้งโต๊ะ จะมีพนักงานพุ่งมาทันที
ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้านไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย
ระวังคนขายโรตี ที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่มไม้, ซอกตึก, อย่าตัดสินใจซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ
ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ
ระวังคน ที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ
อย่าซื้อทุเรียนมากปอกเอง
หนังสือดีคือหนังสือที่เราชอบอ่าน, หนังดีคือหนังที่เราชอบดู
อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่าอย่าบอกใครนะ
อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว คนล้างจะเสียความ รู้สึก
เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ
อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ
รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมันมาอยู่ขวาเสมอไป
ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมี
อย่าเข้าใกล้หมาตอนกินข้าว
ตลาด อตก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา
เวลาดูหนังโรง ควรจำว่ากระปุกน้ำอยู่ด้านไหน
ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป
คนไม่กินเนื้อไม่ได้แปลว่าเป็นดีเสมอไป
เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีน ออกจากปากให้หลับตาด้วย
ปูอัด มันทำจากปลา
กระเพาะปลามันทำมาจากหนังหมู
กินก๋วยเตี๋ยวจากตะเกียบไม้อร่อยกว่า
อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิว เราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ
ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก อ้วนขึ้นนะ กับประเภทที่ สอง ผอมลงนะ ไม่มีใครเข้ามาทักว่า ปกติดีนี่ไปทำอะไรมา
คนที่เอาหมวกตำรวจ หรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถมิใช่เพราะบ้ายเขาไม่ มีตู้ เขาไม่ได้ลืม เค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร
คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา
คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ
ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วาย เรียบง่ายอยู่ได้นาน
จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา
เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดุหน้าที่ตัวเองพูดถึง มักจะหาไม่เจอ
ขนมและน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก
ห้องน้ำผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต, ห้องน้ำผู้ชายผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน

วันเสาร์, สิงหาคม 12, 2549

Algorithm

ขั้นตอนวิธี (Algorithm)
คือกระบวนวิธีการ(procedure)ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มของกฎเกณฑ์ ข้อกำหนดเฉพาะที่ไม่สับสน กำหนดถึงลำดับของวิธีการ(operations) ซึ่งให้ผลลัพธ์สำหรับปัญหาต่าง ๆ ในรูปของขั้นตอนที่มีจำนวนจำกัด

คุณสมบัติของขั้นตอนวิธี
· ขั้นตอนวิธีเป็นกระบวนการที่สร้างขึ้นมาจากกลุ่มของกฎเกณฑ์
· กฎเกณฑ์ที่สร้างขั้นตอนวิธีจะต้องไม่คลุมเครือ(definiteness)
· การประมวลผล operations ที่กำหนดโดยกฎเกณฑ์จะต้องเป็นลำดับที่แน่นอน(effectiveness)
· กระบวนวิธีการต้องให้ผลลัพธ์ตามที่กำหนดในปัญหา โดยออกแบบให้อยู่ในรูปแบบทั่วไป (generality)
· ขั้นตอนวิธีต้องอยู่ในรูปของขั้นตอนวิธีการที่มีการสิ้นสุดได้(finiteness)

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 10, 2549

Heuristic อัลกอริทึมอัจฉริยะ

......จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ วิ่งทะลุสายแลนเข้าสู่เครื่องคุรในขณะที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสยังไม่รู้จักชนิดของการโจมตีที่เกิดขึ้น การป้องกันโดยใช้อัลกอริทึมแบบ heuristic จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในลักษณะนี้ได้ โดยมันจะทำการคำนวณรูปแบบในการโจมตี เพื่อวิเคราะห์ว่านั่นเป็นการโจมตีหรือไม่ ซึ่งจุดนี้เป็นส่วนที่สำคัญมากเพราะการใช้งานบนระบบเครือข่ายในบางครั้งนั้น อาจแยกได้ยากว่าการใช้งานแบบไหนคือการใช้งานตามปรกติและรูปแบบใดคือการโจมตี ดังนั้นฟังก์ชัน heuristic จึงต้องการความแม่นยำ และความสามารถในการวิเคราะห์ที่ค่อนข้างสูง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันที่สูงสุด
.......ในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมานี้สแกนไวรัสด้วยวิธี heuristic จึงต้องการพัฒนามากขึ้น โดยสามารถทำการค้นหาไวรัสใหม่ๆ ได้แม่นยำมากขึ้น ทั้งยังเกิดความผิดพลาดน้อยลง ซึ่งความพลาดที่เกิดจากการแจ้งเตือนอาจก่อให้เกิดควาเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้ เช่น โปรแกรมทำการแจ้งเตือนว่าไฟล์งานปกติเป็นไวรัสแล้วทำการลบไฟลนั้นทิ้ง
........ในเวลานี้บริษัทต่างๆ ได้พัฒนาระบบตรวจสอบ โดยสังเกตจากพฤติกรรมของโปรแกรม (behavior-based) เป็นหลัก เพื่อใช้ในการตรวจสอบไวรัสหรืออันตรายต่างๆ ที่ไฟล์ฐานข้อมูลของโปรแกรมในขณะนั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้ เทคโนโลยีนี้จะคอยเฝ้าดูและตรวจสอบระบบบางส่วนที่มีดอกาสจะตกเป็นเป้าหมายโจมตีและคอยเฝ้าดูพฤติกรรมที่น่าสงสัยต่างๆหากพบว่ามีสิ่งที่น่าสงสัยเกิดขึ้นก็จะเข้าไปหยุดการทำงานของมันทันที แต่วิธีการนี้มีข้อเสียอยู่คือ หากโปรแกรมที่มุ่งร้ายต่างๆ นั้นเริ่มฝังตัวอยู่ในระบบก่อนที่ระบบป้องกันนี้จะเริ่มตรวจสอบการทำงานทั้งหมด ก็จะไม่สามารถเซ็กความเปลี่ยนแปลงของระบบได้เลย ด้วยเหตุผลนี้ระบบตรวจสอบจากพฤติกรรมนี้ จะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อทำงานอยู่เบื้องหลังของระบบป้องกันไวรัสปกติ โดยกำจัดไฟล์อันตรายต่างๆ ก่อนที่มันจะเริ่มทำงาน

วันอาทิตย์, สิงหาคม 06, 2549

นิยามแห่งรัก.....นิยามแห่งใจ

"ความรัก"
ทำให้เรานึงถึงคนอื่นมากขึ้น
และเห็นแก่ตัวน้อยลง
"ประติมากรรมชิ้นเอกที่ดีที่สุดและสวยที่สุด
มีชื่อว่าความรัก
มาจากคนสองคน
หัวใจสองดวง
ที่ถูกหล่อหลอมเป็นคนเดียวกันและดวงเดียวกัน"
"เราอาจไม่รู้ที่มาของความรัก
แต่เราเรียนรู้ที่จะรู้จักที่ไปของมัน
และเรียนรู้ที่จะรักษามันไว้ได้ด้วยหัวใจ"
"ความรักถูกจำกัดให้เรา "รู้จัก" มากกว่า "มองเห็น"
และในบางครั้งความรักก็สอนให้เรา
"รู้จักการมองเห็น" ไปพร้อมๆกัน
แม้ว่าจะมีข้อจำกัดไปบ้าง
แต่เราก็ยังยินดีที่จะมีความรัก....มิใช่หรือ"
"ความเป็นเรา....สอนให้เรารู้ว่า
ความรักจะเลือกคนที่เรารักให้เรา
ความเป็นเขา.....จะสอนให้เรารู้ว่า
เรามีรักที่มีค่าไว้เพื่อใคร"
"ความรักเป็นเรื่องธรรมดาของโลก
หากแต่มหัศจรรย์และล้ำลึกที่สุดแห่งใจ"

วันอังคาร, สิงหาคม 01, 2549

ทฤษฏีเบื้องต้น

การกำหนดตำแหน่งที่อยู่ของข้อมูล (Addressing Modes) เป็นวิธีการที่ใช้ในการอ้างอิงถึงข้อมูลเพื่อใช้ในการประมวลผล สำหรับการเขยนโปรแกรมภาษาแอสเซมบลี ซึ่งวิธีการในการกำหนดตำแหน่งที่อยู่ของข้อมูลนั้นสามารถที่จะกำหนดได้ทั้งข้อมูลที่อยู่ภายในหน่วยประมวลผลกลาง และข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำหลัก โดยการกำหนดตำแหน่งที่อยู่ของข้อมูลสำหรับสถาปัตยกรรม Intel x86 นั้นจะมีวิธีการอยู่ 7 วิธี ซึ่งได้แก่
1.Immediate Addressing Mode วิธีนี้จะเป็นการกำหนดค่าคงที่ (Constant) ที่ต้องการนำไปใช้ ให้กับรีจิสเตอรืดดยไม่ต้องนำไปเก็บในหน่วยความจำก่อน เช่น MOV AX,0065H เป็นต้น
2.Register Addressing Mode วิธีการนี้เป็นวิธีที่ใช้ในการอ้างอิงถึงข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่ในรีจิสเตอร์ไปใช้งาน โดยที่สามรถใช้งานรีจิสเตอร์ได้ทุกตัว ยกเว้นรีจิสเตอร์ IP เช่น MOV AX,BX เป็นต้น
3.Direct Addressing Mode เป็นวิธีการกำหนดค่าออฟเซตขนาด 16 บิตลงไปในคำสั่ง เพื่อใช้ในการอ้างอิงถึงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำหลัก เช่น MOV AX,[0054H]
4.Register Indirect Addressing Mode เป็นวิธีการที่ใช้ในการอ้างอิงถึงตำแหน่งที่อยู่ในหน่วยความจำหลักโดยใช้ค่าภายในรีจสเตอร์เป็นตัวกำหนดตำแหน่งโดยรีจิสเตอร์ที่ใช้ในการเก็บค่าหมายเลขตำแหน่งออฟเซตนั้นจะใช้รีจิสเตอร์ BX,SI และ DI (ในการคำนวณหาตำแหน่งที่อยู่จริง(Physical Address) นั้นจะใช้คู่กับรีจิสเตร์DS หรือ ES )เช่น MOV AX,[BX]เป็นต้น
5.Based Relative Addressing Mode เป็นวิธีการที่ใช้ในการอ้างอิงตำแหน่งที่อยู่ของข้อมูลโดยผ่านทางรีจิสเตอร์ฐานและค่าอ้างอิง (Displacement) โดยรีจิสเตอร์ที่ถูกนำมาใช้งานนั้นจะเป็นรีจิสเตอร์ BX และ BP มีหน้าที่ในการเก็บค่าออฟเซต ซึ่งเมื่อถูกนำไปใช้งานนั้นจะนำค่าที่เก็บอยู่ในรีจิสเตอร์ฐานไปรวมเข้ากับค่าอ้างอ้ง เช่น MOV AX,[BX+05] เป็นต้น
6.Index Addressing Mode เป็นวิธีการที่ใช้ในการอ้างอิงตำแหน่งของข้อมูลโดยใช้ค่าที่เก็บอยู่ในอินเด็กซืรีจิสเตอร์ (Index Register) รวมกับค่าอ้างอิง (Displacement) เช่น MOV AX,[DI+25H]
7.Based Indexed Mode